ศรีสุวรรณ ยื่น กกต.สอบ "วีระกร" ปมช่วยผู้สมัครนายก อบต.หาเสียง

การเมือง
5 พ.ย. 64
11:51
151
Logo Thai PBS
ศรีสุวรรณ ยื่น กกต.สอบ "วีระกร" ปมช่วยผู้สมัครนายก อบต.หาเสียง
ศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นคำร้องต่อ กกต. สอบปมคลิปภาพและเสียง "วีระกร คำประกอบ" ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ช่วยผู้สมัครนายก อบต.หาเสียง เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ หลังเจ้าตัวระบุแค่ลองไมค์

วันนี้ (5 พ.ย.2564) เวลา 10.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีที่ปรากฏคลิปในโซเชียลมีเดีย ซึ่งนายวีระกร คำประกอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคพลังประชารัฐ จ.นครสวรรค์ อาจมีพฤติการณ์ช่วยผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และทีมผู้สมัคร ส.อบต.หาเสียง ทั้งใน ต.พระนอน และ ต.เกรียงไกร อ.เมืองนครสวรรค์ ถือเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวแม้นายวีระกรจะออกมาภาคเสธ ว่า เป็นเพียงการอวยพรผู้สมัครและทีมงานผู้สมัคร และเป็นการลองไมค์ เทสเสียง เทสไมค์เท่านั้น ไม่มีเจตนาหาเสียงแต่อย่างใด แต่คลิปทั้ง 2 คลิปเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ แม้คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญคณะกรรมการการเลือกตั้งไปให้ความเห็นในประเด็นดังกล่าวในสัปดาห์หน้าแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม การกระทำของนักการเมืองที่อาจฝ่าฝืน พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 เป็นอำนาจของ กกต. ที่จะต้องรีบดำเนินการไต่สวนสอบสวนเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เป็นการเร่งด่วน เพราะหากชักช้าอาจทำให้การเลือกตั้ง อบต.ที่เกิดขึ้นเป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรมได้

ทั้งนี้ การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ม.34 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า ห้ามข้าราชการการเมือง ส.ส. ส.ว. ดำเนินการใด ๆ ที่เป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครใด และใน ม.69 กำหนดห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใช้ตำแหน่งหน้าที่กระทำการใด ๆ อันเป็นคุณหรือโทษต่อผู้สมัคร หากฝ่าฝืน ม.34 เมื่อ กกต.ทราบแล้วต้องสั่งให้หยุดกระทำนั้น หากฝ่าฝืน ม.69 มีบทลงโทษค่อนข้างแรงใน ม.126 วรรคสอง มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลอาจสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 20 ปี

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นมีคลิปทั้งภาพและเสียงที่ชัดเจน จึงเป็นหน้าที่และอำนาจของ กกต. ที่จะต้องพิจารณาและวินิจฉัยว่า เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนตามมาตราดังกล่าวหรือไม่ และหากเป็นการฝ่าฝืนก็ต้องรีบสั่งให้หยุดดำเนินการดังกล่าว และที่สำคัญจะเป็นหลักฐานที่สามารถนำไปร้องเรียนเอาผิดเกี่ยวกับการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมของนักการเมืองต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง