สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ชงฟื้น "ช้อปดีมีคืน" กระตุ้นใช้จ่ายปลายปี

เศรษฐกิจ
9 พ.ย. 64
19:49
1,140
Logo Thai PBS
สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ชงฟื้น "ช้อปดีมีคืน" กระตุ้นใช้จ่ายปลายปี
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สมาคมผู้ค้าปลีกไทย เรียกร้องให้รัฐบาลนำโครงการ "ช้อปดีมีคืน" กลับมาใช้อีกครั้งในปีนี้ ระบุเป็นสิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนที่สุด คาดว่าจะช่วยให้เงินสะพัดในช่วงปลายปีประมาณ 3 - 4 แสนล้านบาท

วันนี้ (9 พ.ย.2564) จากกรณีที่สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้มีการเสนอมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย และมีข้อเสนอให้นำ "ช้อปดีมีคืน" กลับมาใช้อีกครั้งในปีนี้

โดยได้มีหนังสือถึงรัฐบาลในเดือน ก.ค.2564 และจากข่าวของคณะกรรมการร่วมเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่สนับสนุนให้มีการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศผ่านกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูงเช่นเดียวกัน

ทางสมาคมผู้ค้าปลีกไทยพร้อมผลักดันโครงการ "ช้อปดีมีคืน" ร่วมกับภาคเอกชน เพื่อนำไปสู่แมกเน็ตสำคัญที่จะดึงดูดคนในประเทศหันมาจับจ่ายใช้สอยอย่างคึกคักในช่วงไฮซีซั่นของปีนี้

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ในช่วงเริ่มต้นของโค้งสุดท้ายของปี เราเห็นการออกมาจับจ่ายใช้สอยของผู้คนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลควรเร่งเดินหน้าผลักดันมาตรการต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นอย่างจริงจังและเร่งด่วน ซึ่งช่วงสิ้นปีถือเป็นไตรมาสที่สำคัญที่สุดในการเร่งฟื้นฟู

รวมทั้งเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะปลุกมู้ดให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยให้สะพัดขึ้นภายในประเทศ และผ่านกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูงในโครงการช้อปดีมีคืน

เสนอ 3 เงื่อนไข "ช้อปดีมีคืน"

สมาคมผู้ค้าปลีกไทย จึงขอเสนอให้รัฐนำโครงการ "ช้อปดีมีคืน" กลับมาใช้ในโค้งสุดท้ายของปี 2564 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. - 31 ธ.ค.2564 เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ของปี 2564
2. กลุ่มเป้าหมาย เป็นผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่สามารถลดหย่อนภาษีได้จำนวน 3.7 - 4 ล้านคนทั่วประเทศ
โดยไม่มีการจำกัดเงื่อนไขและไม่จำกัดสิทธิกลุ่มที่เคยลงทะเบียนในมาตรการอื่นๆ ของรัฐบาล อาทิ คนละครึ่ง และยิ่งใช้ยิ่งได้ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้มีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 1.5 - 2 ล้านคน
3. ขยายวงเงินเป็น 200,000 บาท จากเดิม 30,000 บาท (ในปี 2563) คาดการณ์เงินสะพัดรวมอยู่ที่ 3 - 4 แสนล้านบาท ส่งผลให้ GDP เติบโตขึ้นถึง 0.7 - 1.0%

หนุนโครงการใช้งบรัฐต่ำสุด

ทั้งนี้ "ช้อปดีมีคืน" เป็นโครงการที่สามารถอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีมูลค่าสูงที่สุด โดยสามารถสนับสนุนการใช้จ่ายของผู้คนได้ตรงจุดในระยะเวลาอันสั้น

โดยรัฐบาลใช้งบประมาณเพียง 15,000 - 20,000 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าลดหย่อนภาษี จึงถือเป็นบาซูก้าทางการคลังที่สามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบได้อย่างมหาศาลในระยะเวลาอันรวดเร็วและใช้งบประมาณเพียงเล็กน้อย

นายญนน์ กล่าวว่า สมาคมผู้ค้าปลีกไทย เชื่อว่า "ช้อปดีมีคืน" เป็นไม้ตายสุดท้ายของปีนี้ที่จะเร่งการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วและเร่งด่วน สร้างเม็ดเงินไหลเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

การกระตุ้น Local Consumption ผ่านกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูงให้จับจ่ายใช้สอยจะเป็นกุญแจสำคัญและเป็นการเพิ่มเม็ดเงินโดยทันที

เพราะเราไม่สามารถรอรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังเข้ามาในประเทศได้ไม่เต็มที่ โค้งสุดท้ายของปีนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด และเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนที่สุด

 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

นายกฯ ยืนยันจัด "ลอยกระทง" ตามเดิม ไม่ยกเลิก

หน่วยงานสิ่งแวดล้อมประเมิน "กรุงเทพฯ" เสี่ยงน้ำท่วมปี 2030

โผล่อีก 1 คน อ้างฉีด "จอห์นสัน" คลินิกเดียวกันที่สระแก้ว

เตือนแพทย์รับฉีด “วัคซีนโควิด” หิ้วมาเองเสี่ยงผิดโทษจับ-ปรับ

คาดปมทิ้งแรงงานกลางป่ายาง อาจมี จนท.รัฐ เอี่ยวค้ามนุษย์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง