แรงงานเถื่อนทะลักเข้าไทย ใครได้ “ค่าหัว-ผลประโยชน์”

สังคม
10 พ.ย. 64
17:19
896
Logo Thai PBS
แรงงานเถื่อนทะลักเข้าไทย ใครได้ “ค่าหัว-ผลประโยชน์”
ในรอบสัปดาห์นี้มีข่าวจับกุมแรงงานเถื่อนลักลอบเข้าไทยจากหลายจุด จำนวนเกือบพันคน แต่ละคนบอกว่าจะมาทำงานในเมืองไทย และเสียค่าหัว ค่านำพา ค่าเดินทาง ฯลฯ คนละไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท บางคนต้องเสียเกือบ 30,000 บาท

ข่าวจับ “แรงงานต่างด้าว” ตามแนวชายแดนมีไม่เว้นแต่ละวัน โดยเฉพาะชวงนี้ที่ไทย ประกาศ “เปิดประเทศ”

ย้อนกลับไปดู ข้อมูลการจ้างแรงงานต่างด้าว ของสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว กรมการจัดหางาน ของเดือน ก.ย.2564 พบว่า มีแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานทั่วประเทศ 2,374,501 คน (หมายถึงยังอยู่ในประเทศไทย)

ซึ่งก่อนหน้านี้ ครม.มีมติ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2563, วันที่ 13 ก.ค.2564 และเมื่อวันที่ 28 ก.ย.2564 เปิดโอกาสให้แรงงานเมียนมา กัมพูชา และ ลาว ที่ใบอนุญาตทำงานสิ้นสุดลง ให้นายจ้างขออนุญาตให้แรงงานทำงานโดยถูกกฎหมาย และอยู่ทำงาน จนถึงวันที่ 13 ก.พ.2566

อย่างไรก็ตามในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมา มีแรงงานจำนวนมากที่เดินทางกลับประเทศของตนเอง และเมื่อไทยเปิดประเทศ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ทำให้ธุรกิจต่างๆ เริ่มกลับมาให้บริการอีกครั้ง ทั้งอุตสาหกรรม เกษตรกรรม ธุรกิจบริการ และร้านค้าต่างๆ ซึ่งต้องการแรงงานจำนวนมาก

สำหรับประเภทกิจการที่ต้องการแรงงานข้ามชาติมากที่สุด 5 อันดับ คือ 1.เกษตรและปศุสัตว์ 2.ก่อสร้าง 3.บริการ 4.เกษตรต่อเนื่อง 5.ผลิตหรือจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป

 

ส่วนจังหวัดที่มีความต้องการแรงงานข้ามชาติมากที่สุด 5 อันดับ คือ เชียงใหม่, กรุงเทพมหานคร, จันทบุรี, สมุทรสาคร และระยอง

ข้อมูลการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมือง และการเคลื่อนแรงงานโดยผิดกฎหมาย ของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ระบุว่า ตั้งแต่ 1-31 ต.ค. 2564 มีผู้หลบหนีเข้าเมืองตามชายแดนไทย 10,870 คน แบ่งเป็น เมียนมา 5,782 คน, กัมพูชา 3,692 คน, ลาว 726 คน

 

ขณะที่การจับกุมในช่วงเดือน พ.ย.2564 หลังจากรัฐบาลประกาศเปิดประเทศ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2564 ที่ผ่านมา

วันที่ 7 พ.ย.2564

จุดที่ 1 ทหารกองกำลังสุรสีห์จับแรงงานเมียนมาลักลอบเข้าเมือง บริเวณ บ้านท้ายเหมือง หมู่ 3 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จำนวน 29 ราย เป็น ชาย 24 หญิง 5 ระบุจ่ายค่านายหน้าคนละ18,000 – 20,000 บาท

จุดที่ 2 เจ้าหน้าที่จับกุมแรงงานเมียนมา ที่บ้านกระทะทอง หมู่ 5 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จำนวน 97 ราย เป็นชาย 54 ราย หญิง 43 ราย ทั้งหมด มาจาก จ.ย่างกุ้ง, จ.พะโค, จ.เมาะลำใย, จ.ทวาย, จ.ยะไข่ และ จ.มะกเว ประเทศเมียนมา เพื่อไปทำงานที่ จ.ปทุมธานี, จ.สมุทรสาคร, จ.ระยอง, และ จ.นครปฐม เสียค่าหัวคนละ 15,000 – 20,000 บาท

จุดที่ 3 บ้านประตูด่าน หมู่ 14 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี จับกุมแรงงานเมียนมา 33 ราย เป็นชาย 21 ราย หญิง 12 ราย เสียค่านายหน้าคนละ19,000 บาท

จุดที่ 4 บริเวณเหมืองแร่จริน บ้านห้วยน้ำขาว หมู่ 2 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรีจับกุมแรงงานเมียนมา จำนวน 35 ราย เป็นชาย 26 ราย หญิง 9 ราย ทั้งหมดจ่ายค่าหัวคนละ 28,000 บาท จะไปทำงานที่มหาชัย

วันที่ 9 พ.ย.2564

จุดที่ 1
ทหารชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 สระแก้ว จับกุมชาวกัมพูชา ลักลอบเข้าเมืองบริเวณบ้านทับพริก ต.ทับพริก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จำนวน 34 คน เป็นชาย 18 คน หญิง 16 คน ให้การว่า เดินทางมาจาก จ.บันเตียเมียนเจย จะไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ, สมุทรปราการ, ทำงานโรงงานไก่ จ.สระบุรี, รับจ้างส่งของ จ.ชลบุรี และไปทำประมงที่ จ.ระยอง เสียค่าหัวให้นายหน้าคนละ 2,000-7,000 บาท

จุดที่ 2
จับกุมชาวกัมพูชา ที่บริเวณบ้านคลองน้ำใส หมู่ 1 ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จำนวน 11 คน เป็นชาย 6 คน หญิง 5 คน ให้การว่า มาจาก จ.บันเตียเมียนเจย และ จ.ตโบงฆมุม ประเทศกัมพูชา จะไปทำงานในกรุงเทพฯ และ จ.ชลบุรี เสียค่านำพาคนละ 7,000 บาท

วันที่ 10 พ.ย.2564
ทหารกองกำลังผาเมือง จับกุมแรงงานเมียนมา 61 คน บริเวณชายแดน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เป็นชาย 24 คน หญิง 24 คน เด็กชาย-หญิง 13 คน สารภาพว่า ต้องการเข้ามาหางานทำในประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากประมวลจากเหตุการณ์ทั้งหมด นั่นหมายความว่า ทุกวันนี้มีนายหน้าขนส่งแรงงานจากประเทศต่างๆ เข้ามายังประเทศไทย ใครอยากมาทำงานต้องเสียเงินให้กับนายหน้าฝั่งประเทศตัวเอง และฝั่งประเทศไทย

นายหน้าเหล่านี้ เมื่อส่ง “แรงงาน” ผ่านแล้ว ก็จะได้ “ค่านายหน้า” จากเจ้าของกิจการอีกทอดหนึ่ง หรือเรียกว่าได้สองต่อ แต่ถ้าเกิดความเสี่ยงหรือถูกจับกุม ก็จะ “ไม่รับผิดชอบ” อะไรเลย ปล่อยแรงงานทิ้งขว้างเหมือนที่เราได้ยินข่าวบ่อยครั้งในช่วงนี้เช่นกัน

แต่สิ่งที่หลายคนสงสัยอยู่นั่นก็คือ “ค่าหัว” ของแรงงาน และจากเจ้าของกิจการ ถึงมือใครบ้าง ไม่มีใครพูดถึง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง