กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pan Chalalai โพสต์ข้อความพร้อมระบายความอัดอั้นจากการเป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง เนื่องจากไม่สามารถทนต่อการถูกบังคับให้ต้องขายประกันเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการประเมินผลงาน โดยระบุว่าโพสต์สุดท้าย วันสุดท้าย กับชุดพนักงาน ลาแล้วงการงานธนาคาร ขออนุญาตถอดหัวโขน
การซื้อประกันทุกประเภท ซื้อเพื่อลดความเสี่ยง ต้องเป็นการซื้อเพราะประโยชน์ที่คนซื้อจะได้รับ ไม่ใช่ซื้อเพราะการขอร้องจากพนักงานขอให้ช่วย เศรษฐกิจแบบนี้ใครจะซื้อเป้าประกันมหาโหด ขายไม่ได้พนักงานต้องซื้อเอง ทุกวันนี้ไม่ใช่พนักงานขายแต่เป็นพนักงานซื้อ
ลูกค้าโอดเจอตื๊อขายประกัน
ทั้งนี้ไทยพีบีเอสออนไลน์ สอบถามไปยังผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวแต่เธอยังไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลในตอนนี้ ขณะเดียวกันจากการสอบถามลูกค้าธนาคารหลายคนที่เป็นลูกค้าของธนาคารแห่งหนึ่ง ยอมรับว่าหลังจากเข้าไปเปิดสมุดบัญชีที่ธนาคาร เพื่อฝากเงินเก็บ นอกจากที่หน้าเคาเตอร์พนักงานจะแนะนำให้ลงทุนทำประกันชีวิตแบบสะสม แต่ต้องแบ่งฝากสม่ำเสมอทุกงวด แต่เธอพยายามบอกว่ายังไม่อยากทำประกันแบบนี้ เพราะตั้งใจจะเก็บเงินระยะยาว
ตอนที่อยู่หน้าเคาเตอร์ก็มีการชักชวนให้ทำประกันแบบสะสม มีเงินปันผลแล้ว แต่ก็บอกไปว่ายังไม่แบ่งเงินไปทำแบบนั้นเพราะตั้งใจเก็บเงิน แต่หลังจากนั้นก็มีโทรศัพท์ มาบอกแจ้งขายประกันเพิ่มเติม แม้ว่าจะปฏิเสธไปว่ายังไม่สนใจ
ลูกค้าคนนี้ บอกว่าไม่เพียงแค่ธนาคารดังกล่าว แต่หลายธนาคารที่มีบัญชีอยู่ก็จะมีการโทรมาติดต่อขายประกัน และเสนอแคมเปญต่างๆอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งไม่แน่ใจว่าเกิดจากเบอร์มือถือที่ให้ไว้กับธนาคารหรือไม่
ขณะที่หลายหากได้รับการติดต่อว่าพนักงานแบงก์เสนอขายประกัน ก็จะปฏิเสธทันที เช่น ติดประชุม ขับรถ ไม่สะดวกตอนนี้ ซึ่งยอมรับว่าไม่ชอบการโทรมาตื้อ แต่พอทราบข่าวว่าพนักงานเองก็ถูกกดกันมาจากผูู้บริหารเช่นกันก็รู้สึกเห็นใจ
ธปท.สั่งตรวจสอบเคสพนักงานถูกบังคับขายประกัน
วันนี้ (18 พ.ย.2564) นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวพนักงานสาขาธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ถูกกดดันให้ขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยจนลาออก จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 มีผู้ให้บริการบางแห่งเริ่มกลับมาเน้นการขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยมากขึ้น กำหนดเป้าหมายการขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยเชิงรุก หรือขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยพ่วงกับการให้สินเชื่อเพิ่มมากขึ้น
ธปท.ได้กำชับผู้ให้บริการในทันที เน้นย้ำให้ควบคุมดูแลคุณภาพการขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยอย่างเคร่ง ครัด โดยเฉพาะการเร่งทำเป้าการขายในช่วงระยะเวลาใกล้ปิดรอบการประเมินผลงาน
ธปท.จะติดตามตรวจสอบในเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมดำเนินการตามมาตรการกำกับดูแลที่มีความเข้มข้นขึ้นต่อไป
เบื้องต้น ธปท.ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง เช่น ธปท.กำหนดหลักเกณฑ์การบริหารจัดการด้านการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม และกำกับดูแลเข้มข้นตั้งแต่ปี 2561 โดยเฉพาะเรื่องการจ่ายค่าตอบแทน ที่ผู้ให้บริการต้องไม่กำหนดตัวชี้วัดผลงาน (KPI) ที่ให้น้ำหนักกับเป้าการขายผลิตภัณฑ์หรือกดดันพนักงาน จนนำไปสู่การเสนอขายที่ขาดคุณภาพและขาดความรับผิดชอบต่อลูกค้า รวมทั้งต้องนำข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการบังคับขายมาเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาค่าตอบแทนด้วย
กำชับให้ข้อมูลลูกค้า-ไม่บิดเบือบรบกวนลูกค้า
นอกจากนี้ หลักเกณฑ์ด้านกระบวนการขาย ยังกำหนดเรื่องการให้ข้อมูลครบถ้วน ถูกต้อง ชัดเจน ไม่บิดเบือน และไม่รบกวนลูกค้า รวมทั้งมีกระบวนการตรวจสอบคุณภาพการขาย เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการหลอก บังคับ เอาเปรียบลูกค้า และไม่บังคับขายผลิตภัณฑ์พ่วงเป็นเงื่อนไขในการใช้ผลิตภัณฑ์หลัก
ธปท.ได้ติดตามและประเมินการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเข้มงวด และเปรียบเทียบปรับผู้ให้บริการที่บังคับขายผลิตภัณฑ์ประกันภัย ธปท.ได้เน้นตรวจสอบและประเมินการให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อย และได้ลงโทษอย่างจริงจัง โดยได้เปรียบเทียบปรับผู้ให้บริการที่บังคับขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยจำนวน 2 แห่ง ในปี 2561
ขณะเดียวกันยังได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำกับดูแลการขายผลิตภัณฑ์หลักทรัพย์และประกันภัยผ่านธนาคารพาณิชย์ แบบองค์รวมและสอดคล้องกัน ส่งผลให้ผู้ให้บริการตระหนักและควบคุมการเสนอขายผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด ทำให้เรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวกับการบังคับขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2562–2564
