แพทย์ชี้ภาวะ “ผมร่วง” เกิดขึ้นได้หลังติดเชื้อ COVID-19

สังคม
18 พ.ย. 64
15:24
4,336
Logo Thai PBS
แพทย์ชี้ภาวะ “ผมร่วง” เกิดขึ้นได้หลังติดเชื้อ COVID-19
กรมการแพทย์ ชี้ภาวะผมร่วงหลังการติดเชื้อ COVID-9 สาเหตุจากความเครียดและมีการกระตุ้นปฏิกิริยาการอักเสบ ส่งผลให้วงจรผมเปลี่ยนเร็วกว่าปกติ

วันนี้ (18 พ.ย.2564) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ภาวะผมร่วงภายหลังการติดเชื้อ COVID-19 ส่วนใหญ่เป็นอาการของโรคผมผลัด โดยผู้ป่วยจะมีอาการผมร่วงทั่วศีรษะมากผิดปกติ มากกว่า 100 เส้น/วัน แต่ไม่มากเกิน 50% ของผมทั้งศีรษะในระยะเวลา 2-3 เดือน

ในบางรายอาจจะเกิดได้เร็วประมาณหนึ่งเดือนครึ่งภายหลังการติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งค่อนข้างเร็วกว่าภาวะผมผลัดจากสาเหตุอื่น พบว่าผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อ COVID-19 เกิดโรคผมผลัดหลังจากการติดเชื้อประมาณ 25% โรคผมผลัดอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่น เช่น เกิดภายหลังจากมีภาวะป่วยหนัก มีภาวะเครียดมาก การขาดสารอาหาร เป็นโรคไทรอยด์และการรับประทานยาบางอย่าง ดังนั้นหากผู้ป่วยมีประวัติสาเหตุอื่นร่วมด้วย อาจมีความจำเป็นที่จะต้องแยกสาเหตุอื่นร่วมด้วย โดยการตรวจผมและการตรวจเลือด

 

ขณะที่ พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยกระตุ้นอื่นนอกเหนือจากภาวะเจ็บป่วยจากการติดเชื้อ COVID-19 ควรจะรักษาร่วมด้วย คือ

  • หากผู้ป่วยเกิดภาวะผมร่วงภายหลังจากมีการติดเชื้อโดยไม่มีปัจจัยอื่น โดยทั่วไปผู้ป่วยที่มีโรคผมผลัดมักหายได้เองหลังจากสาเหตุหมดไปแล้วประมาณ 2-6 เดือน ในกรณีผู้ป่วยที่เป็นโรคผมผลัดหลังจากการติดเชื้อภายหลังการติดเชื้อ อาจจะหายได้เร็วกว่าที่ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน
  • การพรางผมบาง ช่วยทำให้ภาพลักษณ์ของผู้ป่วยดีขึ้นได้ เช่น ทรงผม, การทำสีผมหรือการใส่วิก
  • การรักษาด้วยยาทาไมน็อกซิดิล อาจแนะนำให้ผู้ป่วยใช้ยาทา 5% minoxidil solution วันละ1-2 ครั้ง หรือ 2% minoxidil solution วันละ 2 ครั้ง เพื่อกระตุ้นผมให้ขึ้นใหม่ โดยอาจเริ่มใช้ตอนที่ผมเริ่มจะหยุดร่วง การทายานี้อาจทำให้เกิดผมร่วงในช่วงแรก ๆ ที่ใช้ยาได้ และยังไม่จำเป็นต้องทายานี้เสมอไปในโรคผมผลัด เนื่องจากในภาวะนี้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นได้เองหลังสาเหตุกระตุ้นหมดไป

ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า ควรหลีกเลี่ยงการกินยาที่อาจมีส่วนทำให้ผมร่วง เช่น ยารักษาความดันโลหิตสูงชนิด Beta blockers, ยาวิตามินเอและยากันเลือดแข็งตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยา ในผู้ป่วยที่รับประทานยานี้อยู่แล้วไม่ควรหยุดยาเอง ควรปรึกษาแพทย์ก่อน และการกินเหล็กและวิตามิน เช่น สังกะสี, ไบโอติน, วิตามินดี ยังไม่ได้มีหลักฐานทางการศึกษาชัดเจนว่า จะมีส่วนช่วยรักษาโรคผมผลัดในผู้ป่วยไม่ได้มีภาวะขาดเหล็ก หรือวิตามินดังกล่าว หากอาการผมร่วงไม่ดีขึ้นภายในระยะเวลา 3-6 เดือน ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง