วันนี้ (25 พ.ย.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แอปเปิลเตรียมฟ้องบริษัท NSO Group ของอิสราเอล บริษัทเทคโนโลยีด้านการสอดแนม หลังจากถูกกล่าวหาว่า NSO ส่ง " สปายแวร์" เข้าไปสอดแนมข้อมูลของลูกค้า โดยไม่รู้ตัว ทั้งการดักฟัง ดักดูข้อมูลแชท การเข้าถึงไมโครโฟน ภาพถ่าย และข้อมูลในสมาร์ตโฟน
สื่อต่างประเทศ รายงานว่า กลุ่มบุคคลเป้าหมายที่ถูกสอดแนม มีทั้งระดับราชวงศ์ในตะวันออกกลาง นักวิชาการ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง นักสิทธิมนุษยชน ผู้เห็นต่างทางการเมือง และสื่อมวลชน ทำให้แอปเปิลระงับให้ NSO ใช้บริการผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง เช่นเดียวกับเทคโลยียักษ์ใหญ่หลายเจ้าของอเมริกาที่ออกมาดำเนินการทางกฎหมายกับ NSO ทั้งเมตา ไมโครซอฟต์ อัลฟาเบ็ต และซิสโก้
ด้าน NSO ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ โดยระบุว่า ได้ดำเนินกิจการอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันการนำเทคโนโลยีสอดแนมไปใช้งานในทางที่ผิด โดยระบุว่าการให้บริการเทคโนโลยีสอดแนมกับหน่วยงานภาครัฐหลายๆ ประเทศ เพื่อการสอดแนมการก่อการร้าย และป้องกันการละเมิดสิทธิ
กรณีนี้สอดคล้องกับนักวิชาการอิสระในไทย และสื่อต่างประเทศรายงานว่า มีนักวิชาการและนักเคลื่อนไหวไทยอย่างน้อย 6 คน ได้รับจดหมายเตือนจากแอปเปิล ว่าได้ตกเป็นเป้าหมายการถูกสอดแนมจากลูกค้าหลักของ NSO Group คือ รัฐบาล กองทัพ ไม่ใช่แฮกเกอร์ปัจเจกหรือเอกชนทั่วไป
นักวิชาการอิสระยังตั้งข้อสังเกตถึงข้อความในจดหมายนี้ มีความสอดคล้องกับข้อมูลเว็บไซต์ แล็บซิติเซน มหาวิทยาลัยโตรอนโตของแคนาดา ที่ตรวจพบสปายแวร์นี้จากบริษัทเวอร์เคิล ซึ่งอยู่ในเครือของ NSO Group โดยเว็บไซต์ระบุว่า หน่วยงานหลาย ๆ ประเทศเกี่ยวข้องกับการใช้สปายแวร์ โดยขอให้ผู้ใช้ระบบ iOS อัพเดทซอฟต์แวร์เวอร์ชัน 15.1.1 ขึ้นไป รวมถึงหน่วยงานในไทยที่เกี่ยวข้องกับข่าวกรองด้านความมั่นคง และหน่วยงานด้านการปราบปรามยาเสพติดด้วย