แม้ว่าขณะนี้จะมีกระแสความกังวลเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนไปทั่วโลก แต่กลุ่มผู้ประท้วงในออสเตรเลียหลายพันคนยังออกมารวมตัวกันด้านหน้าอาคารรัฐสภาในนครเมลเบิร์น ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไปตามท้องถนนใจกลางเมือง เพื่อร่วมแสดงพลังต่อต้านมาตรการปิดเมืองและบังคับฉีดวัคซีนโควิด-19 ในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งการประท้วงในลักษณะนี้ยังเกิดขึ้นในเมืองใหญ่ อย่างนครซิดนีย์และบริสเบนอีกด้วย
ออสเตรเลียยังไม่ได้สั่งบังคับฉีดวัคซีนทั่วประเทศ แต่รัฐบาลท้องถิ่นในรัฐต่าง ๆ ได้ออกมาตรการดังกล่าวแล้ว แต่อาจเข้มข้นแตกต่างกันไป ขณะที่ล่าสุดรัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลียออกมาประกาศห้ามชาวต่างชาติที่อยู่ในแอฟริกาใต้และอีก 8 ประเทศในแอฟริกา ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา เดินทางเข้าออสเตรเลีย
นอกจากนี้ ยังได้สั่งระงับเที่ยวบินจากทั้ง 9 ประเทศในแอฟริกาตอนใต้เป็นการชั่วคราวด้วย เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งองค์การอนามัยโลกประกาศยกให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลตัวล่าสุด
ออสเตรเลียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ดำเนินนโยบายเช่นเดียวกับอิสราเอล ญี่ปุ่น อังกฤษและสหภาพยุโรป ที่ประกาศยกระดับการจำกัดการเดินทาง รวมทั้งปิดพรมแดนกับแอฟริกาใต้และประเทศใกล้เคียงในแอฟริกา หลังจากล่าสุดมีรายงานการตรวจพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์นี้แล้ว ในบอตสวานา ฮ่องกง อิสราเอลและเบลเยียม
ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกาออกมายืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่พบสายพันธุ์นี้ในประเทศ แต่ทางการได้สั่งระงับเที่ยวบินจาก 8 ประเทศในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวแล้ว โดยผู้นำสหรัฐอเมริกา ระบุว่า มาตรการนี้เป็นการเฝ้าระวังจนกว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายพันธุ์นี้
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยว่า มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในผู้โดยสารประมาณ 600 คน จาก 2 เที่ยวบินของสายการบินเคแอลเอ็ม ที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ถึงกรุงอัมสเตอร์ดัม เนื่องจากกังวลถึงสายพันธุ์ใหม่ และพบว่า มีผู้โดยสารติดเชื้อ 61 คน โดยทั้งหมดจะถูกแยกกักตัวในโรงแรมบริเวณสนามบินและเจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบว่าเชื้อที่ตรวจพบเป็นสายพันธุ์ใหม่หรือไม่