โควิดสายพันธุ์ใหม่กดดันเศรษฐกิจฟื้นตัว

เศรษฐกิจ
27 พ.ย. 64
17:48
1,438
Logo Thai PBS
โควิดสายพันธุ์ใหม่กดดันเศรษฐกิจฟื้นตัว
การกลายพันธุ์ของโควิดสายพันธุ์ใหม่ล่าสุด ที่กำลังแพร่ระบาดในแอฟริกาใต้ กดดันความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงไทย นักวิเคราะห์และนักธุรกิจ มองตรงกันว่า มีความน่ากังวล แต่ยังไม่สามารถประเมินผลได้

ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดเมื่อวานนี้ ที่ระดับ 1,610.61 จุด ร่วงลง 37.85 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.23 แสนล้านบาท

 

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงมา เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ แต่ระยะต่อไปหากไทยไม่มีความเสี่ยงเรื่องดังกล่าวเข้ามากระทบ เชื่อว่า ความกังวลในตลาดหุ้นจะเป็นช่วงสั้น ๆ เท่านั้น

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต ระบุว่า ยังเร็วไปที่จะประเมินผล แต่ตอนนี้หลายฝ่ายมีความกังวล ซึ่งกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเมือง การเดินทาง และการท่องเที่ยว ลดลงรุนแรงเมื่อวานนี้ สวนทางกับหุ้นที่ปลอดโควิด-19 เช่น โรงพยาบาล ถุงมือยาง และเทคโนโลยีที่ปรับตัวดีขึ้น อกจากนี้ ยังมีความเป็นห่วงว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจล่าช้าออกไป

 

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย ระบุว่า นักท่องเที่ยวจากแอฟริกาไม่ใช่ตลาดหลักของไทย แต่กรณีพบการแพร่เชื้อในยุโรป ยอมรับว่า มีความกังวล เพราะนักท่องเที่ยวยุโรปเป็นหนึ่งในตลาดหลักที่เข้ามาไทยในขณะนี้ ซึ่งหากภาครัฐยกระดับมาตรการการเดินทางเข้ามาเข้มข้นขึ้น อาจทำให้นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทางมาไทยได้ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นมองว่า ผลกระทบอาจยังไม่มากนัก และไม่ต้องการให้มีการล็อกดาวน์อีก

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า แม้ขณะนี้ไทยยังไม่เกิดการระบาดระลอก 5 แต่เอสเอ็มอีก็ประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง ส่งผลให้เอสเอ็มอีอาจปิดกิจการไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 และมีคนตกงานเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 1-2 ล้านคน คิดเป็นความสูญเสียในระบบเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 3 แสนล้านบาท

 

ดังนั้น จึงขอให้รัฐบาลวางมาตรการควบคุมการระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกา รวมทั้ง เปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น ประสิทธิภาพวัคซีนต่อการป้องกันายพันธุ์ใหม่ และ ชุดตรวจ ATK ในท้องตลาด สามารถตรวจหาเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวได้หรือไม่ รวมทั้ง ลดหย่อนภาษีต้นทุนค่าชุดตรวจ ATK ให้สถานประกอบการ เพื่อควบคุมการเกิดคลัสเตอร์ และบรรเทาภาระผู้ประกอบการที่กำลังฟื้นตัว

 

ก่อนหน้านี้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในการประชุมหอการค้าทั่วประเทศว่า รัฐบาลได้ทำสัญญารอส่งมอบวัคซีน สำหรับฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หรือ บูสเตอร์ โดส จำนวน 66-90 ล้านโดส จากเป้าหมาย 120 ล้านโดส คาดว่า จะสามารถทำสัญญาส่งมอบวัคซีนตามเป้าหมายภายในสิ้นปี เพื่อเป็นหลักประกันให้คนไทยและเดินหน้าเปิดประเทศได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ รัฐบาล ยังเตรียมแผนจัดซื้อยารักษาโรคจากโควิด-19 ตั้งแต่เริ่มมีอาการระยะแรก ระยะปานกลาง และอาการรุนแรง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอบวิกฤตขาดแคลนเตียงในสถานพยาบาลอีก จึงขอให้เอกชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลได้เตรียมความพร้อมรับการระบาดระลอกใหม่ โดยไม่กระทบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง