วันนี้ (11 ธ.ค.2564) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามคุณภาพอากาศ โดยศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) ในวันนี้ เวลา 07.00 น. ภาพรวมปริมาณฝุ่น PM2.5 ในประเทศ อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั้งหมด ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี
ภาคเหนือตรวจวัดค่าฝุ่น PM2.5 ได้ 15-39 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ( มคก.ต่อ ลบ.ม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตรวจวัดได้ 11-28 มคก.ต่อ ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตกตรวจวัดได้ 12-38 มคก.ต่อ ลบ.ม. ภาคตะวันออกตรวจวัดได้ 14-25 มคก.ต่อ ลบ.ม. ภาคใต้ตรวจวัดได้ 8-19 มคก.ต่อ ลบ.ม. กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. ตรวจวัดได้ 21-47 มคก.ต่อ ลบ.ม.
จากการตรวจสอบคุณภาพอากาศประจำเดือน ณ วันที่ 10 ธ.ค.2564 พบว่า คุณภาพอากาศทั่วประเทศในภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี โดยจังหวัดที่มีคุณภาพอากาศดีที่สุดในแต่ละภาค 3 ลำดับแรก มีดังนี้
- ภาคเหนือ ได้แก่ ลำปาง เชียงใหม่ เพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ร้อยเอ็ด มุกดาหาร บุรีรัมย์
- ภาคกลางและภาคตะวันตก ได้แก่ ลพบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี
- ภาคตะวันออก ได้แก่ ระยอง ชลบุรี ตราด
- ภาคใต้ ได้แก่ ยะลา นครศรีธรรมราช ภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอาจมีสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 สะสมและเกินมาตรฐานในระหว่างวันที่ 15-18 ธ.ค.2564 ดังนั้นเพื่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี และปทุมธานี ศกพ. ขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาในที่โล่ง ใช้รถเท่าที่จำเป็น เฝ้าระวังรักษาสุขภาพอนามัย และตรวจสอบคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน
ทั้งนี้ หากอยู่บริเวณพื้นที่มีปริมาณ PM2.5 สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือพื้นที่สีส้ม ขอให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากอนามัย หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง และหากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
แนะ 10 วิธีรับมือฝุ่น PM2.5 เตือนกลุ่มเสี่ยงป้องกัน-ดูแลตัวเองเพิ่ม
วินิจฉัยโรคฝุ่นเชิงรุกชาวลำพูน 1,000 คน รู้ผลปอด-ภูมิแพ้ใน 1 ชั่วโมง