เฉลย! "งูกะปะกัด" ส่งผลระบบเลือด-เนื้อตายเสี่ยงเสียเลือดมาก

ภูมิภาค
13 ธ.ค. 64
18:40
18,262
Logo Thai PBS
เฉลย!  "งูกะปะกัด" ส่งผลระบบเลือด-เนื้อตายเสี่ยงเสียเลือดมาก
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เด็กหญิงวัย 10 ขวบถูกงูกะปะฉกมือข้างซ้าย อาการยังไม่พ้นขีดอันตราย แพทย์เฝ้าดูอาการใกล้ชิด แต่มีเลือดกรุ๊ป AB เพียงพอทำเกล็ดเลือด ชี้งูกะปะมีพิษร้ายแรงฉกแล้วมีผลต่อระบบเลือดไหลออกไม่หยุด แค่ 10 นาทีบริเวณรอยเขี้ยวจะบวม เขียวคล้ำผิวหนังพอง

กรณีโลกโซเชียลแชร์ข้อความ Tossaphon Srichompu ขอรับบริจาคเลือดกรุ๊ป AB เพื่อให้ ด.ญ.กัญพัชญ์ อนุมาลย์ ทางโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ไม่มีเกล็ดเลือด เนื่องจากโดนงูกะปะกัด ต้องเข้ารับการผ่าตัด ระบายแรงดันบริเวณมือ เพื่อหวังว่าให้เลือดไปเลี้ยงนิ้วมือได้ 

วันนี้ (13 ธ.ค.2564) นางจิราพร ขาวนวล อายุ 44 ปี แม่ของดญ.กัญพัชญ์ เล่าวว่า เมื่อวานนี้ ( 12 ธ.ค.) ช่วงเวลา 15.30 น. ลูกสาวเดินเล่นบริเวณรอบบ้าน จากนั้นได้ยินเสียงน้องร้อง พร้อมตะโกน ถูกงูกัด บริเวณนิ้วมื้อ ซ้าย จึงรีบวิ่งไปดูพบบริเวณที่งูกัดเลือดไหลเยอะมาก จึงนำสายกระเป๋ารัดไว้ ก่อนที่พ่อจะไปตีงูจนตาย ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล พร้อมงูกะปะ

แต่ลูกสาว มีอาการแพ้เซรุ่มแก้พิษงู ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าไม่มีเลือด AB จำนวนมากพอที่จะทำเกล็ดเลือดจึงได้โพสต์ในโลกโซเชียล เพื่อให้คนมาช่วยกันบริจาคเกล็ดเลือด ต้องขอขอบคุทุกคนที่ได้มาบริจาคเลือดเพื่อนำไปรักษาลูกสาว ซึ่งตอนนี้แพทย์ยังต้องเฝ้าดูอาการอย่างต่อเนื่อง

สำหรับอาการลูกสาว ตอนนี้แผลบริเวณนิ้วเริ่มเป็นเนื้อตาย แพทย์ต้องการผ่าตัดเอาเลือดออก เพื่อให้เลือดหมุนเวียน โดยรวมยังไม่พ้นขีดอันตราย ยังต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อ แพทย์ได้นำเลือดไปทำเกล็ดเลือด เพื่อไปรักษาด้วยการเร่งกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อโดยธรรมชาติ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย อีกทั้งยังทำให้ลดอาการปวด

วันนี้มีคนมาบริจาคเลือดให้น้องเป็นจำนวนมาก ทางโรงพยาบาลมีเกล็ดเลือดมากเพียงพอในการรักษา หากไม่เพียงพอจะได้ประชาสัมพันธ์อีกครั้ง ตอนนี้ขอหยุดรับบริจาคเลือดไปก่อน

งูกะปะพิษแรง-มีผลต่อระบบเลือด

สำหรับงูกะปะ เป็นงูพิษที่มีพิษรุนแรงมาก มีลักษณะหัวเป็นรูปสามเหลี่ยม คอเล็ก ลำตัวอ้วน หางเรียวสั้น มีลายเป็นรูปเหมือนหลังคาบ้านอยู่ด้านข้างตลอดลำตัว มีสีเทาอมชมพูลายสีน้ำตาลเข้ม เกล็ดมีขนาดใหญ่ จะงอยปากงอนขึ้นข้างบน หากินเวลาพลบค่ำและกลางคืน โดยเฉพาะในเวลาที่มีความชื้นในอากาศสูง เช่น หลังฝนตก ชอบอาศัยในดินปนทรายที่มีใบไม้หรือเศษซากไม้ทับถมกันเพื่อซ่อนตัว เป็นงูที่ไม่ปราดเปรียว เวลาตกใจจะงอตัวหรือขดนิ่ง แต่ฉกกัดรวดเร็วมาก

 

 

งูกะปะ เป็นงูพิษที่มีอันตรายต่อมนุษย์มากที่สุดที่พบในประเทศไทย พิษของงูกะปะนั้นมีผลต่อระบบเลือด ทำให้เลือดออกมากผิดปกติ เมื่อถูกกัดภายใน 10 นาที หลังบริเวณรอบแผลที่ถูกกัดจะบวมขึ้นอย่างรวดเร็วจนกระทั่งแขนหรือขาข้างนั้นบวมไปหมดภายใน 1 ชั่วโมง

ในรอยเขี้ยวจะมีเลือดไหลตลอดเวลา บริเวณแขนขาที่บวมจะมีสีเขียวคล้ำ ผิวหนังเกิดพอง ตอนแรกมีน้ำใสต่อมาภายหลังมีเลือด ภายหลังถูกกัดไม่กี่วันรอยเขี้ยวจะเกิดการเน่า ทำให้ผิวหนังมีเลือดออกเป็นรอยคล้ำ เลือดออกทางเดินอาหาร

ผู้ที่โดนกัดจะเสียชีวิตได้จากความดันโลหิตต่ำ ซึ่งความดันโลหิตต่ำ เกิดจากการเสียเลือดนั่นเอง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง