ทอร์นาโดถล่มสหรัฐฯ โยงภาวะโลกร้อน

พายุทอร์นาโด เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติในพื้นที่ทางตอนกลางของสหรัฐฯ แต่การก่อตัวของพายุในช่วงเดือน ธ.ค. เหมือนจะเป็นเรื่องที่ผิดปกติ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความเชื่อมโยงกับปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงหรือไม่

ตามปกติเมื่อเข้าสู่เดือน ธ.ค. ประเทศในแถบซีกโลกเหนือคงนึกถึงภัยทางธรรมชาติจากพายุหิมะเป็นหลัก พายุทอร์นาโดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานับว่ามีความรุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ

ทอร์นาโด 36 ลูกถล่มสหรัฐฯ 

พายุทอร์นาโด 36 ลูก พัดถล่มรัฐเคนทักกี อิลลินอยส์ เทนเนสซี อาร์คันซอ มิสซูรี และมิสซิสซิปปี โดยพายุทอร์นาโดลูกหนึ่งเคลื่อนที่เป็นระยะทางไกลถึง 320 กิโลเมตรและสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง เมืองเมย์ฟิลด์ในเคนทักกีได้รับผลกระทบหนักสุด หลังจากความรุนแรงของพายุทำให้อาคารบ้านเรือนพังราบ

ภาพถ่ายดาวเทียมเปรียบเทียบก่อนและหลังจากพายุทอร์นาโดพัดถล่ม ยิ่งเห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ชัดเจน

 

"ทอร์นาโด" เกิดขึ้นได้อย่างไร และทำไมมักจะเกิดในสหรัฐฯ ติดตามจากรายงาน

 

 

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยาตั้งข้อสังเกตว่าพายุทอร์นาโดในเดือน ธ.ค. เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นบ่อยนัก โดยปัจจัยทำให้เกิดภาวะสภาพอากาศรุนแรงสุดขั้วในช่วงเวลานี้ของปี มาจากอุณหภูมิและความชื้นที่สูงผิดปกติ

การเกิดพายุทอร์นาโดกลางเดือน ธ.ค. เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่ภัยพิบัติทางธรรมชาติในครั้งนี้อาจเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่ใช่เรื่องหลอกลวง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"รัฐเคนทักกี" คาดมีผู้เสียชีวิตจากทอร์นาโดถล่มทะลุ 100 คน

ทอร์นาโด 36 ลูก ถล่มสหรัฐฯ เสียชีวิตอย่างน้อย 70 คน