ดรามา "โควิดกระจอก" ของ "อนุทิน" สวนทางข้อกังวลชาวโลก

สังคม
18 ธ.ค. 64
17:42
1,826
Logo Thai PBS
ดรามา "โควิดกระจอก" ของ "อนุทิน" สวนทางข้อกังวลชาวโลก
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"อนุทิน" ตอบอีกครั้งมุมมอง "โควิดกระจอก" แม้จะเป็นเชื้อกลายพันธุ์ "โอมิครอน" สวนทางชาวโลกที่กังวลคุมไม่อยู่เชื้อกลายพันธุ์กำลังเข้ามาครองเมือง ระบุเหตุคนไทยเข้าใจรับมือดี จึงแค่โรคกระจอก ขณะที่นักไวรัสวิทยาไทย เตือนอย่าเพิ่งผ่อนปรนสวมหน้ากากอนามัย
ยังยืนยัง COVID-19 เป็นเชื้อไวรัสติดเชื้อที่กระจอก แม้จะกลายพันธุ์เป็นหลายสายพันธุ์ ตราบใดยังคงเป็นไวรัส COVID-19 ประเทศไทยพร้อมในเรื่องของวัคซีนยิ่งปี 65 ทั้งปีชาวบ้านไม่ต้องไปจอง ฉีดได้ทั้งปีไม่ว่าเข็ม 3 เข็ม 4 เข็ม 5 ก็ฉีดให้

กลายเป็นเรื่องระอุในโซเชียล จากคำพูดของนายอนุทิน กลายเป็นวลีเด็ดที่ชาวโซเชียล หยิบมาพูดถึงในวงกว้างอีกครั้ง เพราะถือเป็นคำพูดที่สวนทางกับทิศทางของโลกที่ห่วงว่าเชื้อกลายพันธุ์ "โอมิครอน" กำลังเป็นสายพันธุ์การระบาดหลักในช่วงหลังปีใหม่

แม้แต่องค์การอนามัยโลก และหลายชาติในยุโรปที่เผชิญการระบาดของโอมิครอนยังใช้คำว่า "อาจอยู่นอกเหนือการควบคุมแล้ว" 

ก่อนหน้านี้ในช่วงการระบาดของ COVID-19 ปลายปี 2563 นายอนุทิน เคยใช้คำว่า "โควิดกระจอก" มาแล้ว กระทั่งการระบาดระลอกใหม่ในเดือน เม.ย.2564 ที่ทำให้มีคนไทยติดเชื้อ COVID-19 แตะหลัก 1-2 หมื่นคนต่อวันป่วยหลักหมื่นคนต่อวัน และเสียชีวิตหลักร้อยคนต่อเนื่องหลายเดือน

 

 

แม้วันนี้ (18 ธ.ค.64) ศูนย์ข้อมูล COVID-19 จะรายงานสถานการณ์ พบผู้ติดเชื้อใหม่รวม 3,132 คน ผู้ป่วยสะสม 2,159,766 คน (ตั้งแต่ 1 เม.ย.) หายป่วยกลับบ้าน 3,278 คน หายป่วยสะสม 2,096,543 คน (ตั้งแต่ 1 เม.ย.) ผู้ป่วยกำลังรักษา 43,305 คน และเสียชีวิต 28 คน แต่ยังไม่ไว้ใจว่าตัวเลขนี้อาจจะขยับกราฟขึ้นอีกหรือไม่ 

ชี้ไวรัสทำอะไรคนไทยไม่ได้-รับมือดีขึ้น

ล่าสุด หลังกระแสโซเชียล "โควิดกระจอก" นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์อีกครั้งวันนี้ โดยยืนยันว่า

กระจอก ที่หมายถึงคือ ไวรัสทำอะไรคนไทยไม่ได้ หากทุกคนเข้าใจ และเรียนรู้ในการดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี รู้ว่าจะรับมือโควิดอย่างไร มันก็จะเป็นโรคกระจอก

พร้อมทั้งระบุว่า คำนี้ต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ เห็นภาพว่าคนไทยเข้าใจ COVID-19 ดีมาก ให้ความร่วมมือกันภาครัฐ ปฏิบัติตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุข แนะนำอย่างดี ทำให้การติดเชื้อภายในประเทศ มีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 2.2%

 

ส่วนเรื่องของการพบสายพันธุ์ใหม่ เป็นธรรมชาติของโรคระบาด ที่มีการปรับตัวให้อยู่กับมนุษย์ให้ได้ ซึ่งไทยมีมาตรการรองรับที่ดี อย่างที่เคยพบสายพันธุ์เบตาในภาคใต้ จ.นราธิวาส แต่เพราะร่วมกันสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมืออย่างดี ก็ไม่มีการระบาดของเบตาในไทย

นายอนุทิน ระบุว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีวัคซีนเพียงพอ และได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกว่ามีความปลอดภัย แม้จะมีสายพันธุ์ใหม่ขึ้น แต่วัคซีน ยังป้องกันความรุนแรง ลดโอกาสเสียชีวิตได้ดีกว่าคนที่ยังไม่รับวัคซีน ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนเข้ามารับวัคซีนทั้งเข็ม 1 2 และ 3 เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง และคนที่รัก

นักไวรัสแนะไม่ควรผ่อนปรนใส่หน้ากากอนามัย  

ส่วนกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอ "COVID Safe Area" ให้รัฐบาลพิจารณาผ่อนปรนการสวมหน้ากากอนามัยบางพื้นที่ โดยต้องมีข้อกำหนดในการปฏิบัติเพิ่มเติม เพื่อเป็นของขวัญให้ประชาชน

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยาผอ.กลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า

อย่าเพิ่งเลยครับ ไม่น่าใช้ข้อเสนอแนะที่เป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศตอนนี้เลยครับ

 

เช่นเดียวกับความเห็นของ รศ.นพ.ธีระ ศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เป็นห่วงสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีสายพันธุ์โอมิครอนว่า

ยังควรใส่หน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่าง เลี่ยงการตะลอนท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แออัด ระบายอากาศไม่ดี เลี่ยงการจัดปาร์ตี้สังสรรค์ และ ฉลองกับคนในบ้านจะดีกว่า 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

สธ.เตรียมชง "COVID Safe Area" ผ่อนปรนการสวมหน้ากากบางพื้นที่

ศาลสั่งเบรก ประกาศ สธ.ปมไม่คุ้มครองคนแพ้วัคซีนทางเลือก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง