สธ.แจ้งเตือนภัยด้านสาธารณสุข ระดับ 3 รับมือโอมิครอน

สังคม
27 ธ.ค. 64
17:20
6,127
Logo Thai PBS
สธ.แจ้งเตือนภัยด้านสาธารณสุข ระดับ 3 รับมือโอมิครอน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สธ.ประกาศแจ้งการเตือนภัยด้านสาธารณสุขเป็นระดับ 3 จาก 5 ระดับ เปิดสัญญาณเสี่ยง พร้อมมาตรการควบคุมโรค ขอความร่วมมือประชาชนรับมือ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน

วันนี้ (27 ธ.ค.2564) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ประเมินสถานการณ์และประกาศแจ้งการเตือนภัยด้านสาธารณสุขระดับ 3 จากทั้งหมด 5 ระดับ

สำหรับการประเมินแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ประเมินจากอัตราป่วยเฉลี่ยต่อประชากร 100,000 คน/วัน โดยข้อมูลเป็นรายสัปดาห์ โดยแบ่งเป็นระดับความเสี่ยงของสถานการณ์โรค COVID-19 ตามสี 5 ระดับ คือ เสี่ยงต่ำมาก เสี่ยงต่ำ เสี่ยงปานกลาง เสี่ยงสูง และวิกฤต


อีกส่วนคือการรองรับผู้ติดเชื้อ โดยมีปัจจัยพิจารณาระดับการเตือนภัยจากโรค COVID-19 ประกอบด้วย ระดับความเสี่ยงของสถานการณ์โรค COVID-19 (ระดับสี) ความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม กลุ่ม 607 และการพบคลัสเตอร์เกินศักยภาพการควบคุมโรคของพื้นที่ และเกิดขึ้นพร้อมกันหลายจังหวัด/ภูมิภาค

เมื่อนำทั้ง 2 ส่วนมารวมกันจะประเมินเป็นระดับการเตือนภัย 5 ระดับ ได้แก่

  1. New Normal ใช้ชีวิตได้ปกติ
  2. Alert เร่งเฝ้าระวัง คัดกรอง
  3. Activated จำกัดรวมกลุ่ม
  4. Considerable ปิดสถานที่เสี่ยง
  5. Restricted จำกัดการเดินทาง

สำหรับสัญญาณเสี่ยง ระดับ 3 ที่พบ คือ การติดเชื้อจากต่างประเทศ ไม่ปฏิบัติตาม UP ขณะเดินทาง รวมถึงพบคลัสเตอร์ในประเทศจากการรับประทานอาหาร-ดื่มสุราในร้านระบบปิด/บาร์ และร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ใกล้ชิดกันมาก ทำให้ต้องมีแจ้งการเตือนภัยด้านสาธารณสุขระดับ 3 


ส่วนมาตรการป้องกันโรค COVID-19 ได้แก่

-ให้ปิดสถานที่เสี่ยงสูง
-จำกัดการจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม ตามความรุนแรงของพื้นที่
-เดินทางเข้าประเทศได้ ผ่าน Sandbox
-เน้นควบคุมโรคในชุมชน ค้นหาเชิงรุก ฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงสูง


ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนในช่วงปีใหม่ ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกัน COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน ดังนี้

-เร่งรับวัคซีนป้องกัน COVID-19
-สวมหน้ากาก 100% ขณะอยู่กับผู้อื่น
-ชะลอเดินทางไปต่างประเทศโดยไม่จำเป็น
-เลี่ยงกิจกรรมรวมกลุ่มจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ปิด
-เลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยง 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง