วันนี้ (20 ม.ค.2565) นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงชี้แจงถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ มีการประชุมร่วมกันระหว่างกรรมการบริหารพรรค 17 คน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์พรรคพลังประชารัฐ 61 คน รวม 78 คน เนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรค และคณะรวม 21 คน ได้เสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ให้ปรับโครงสร้างพรรคขนาดใหญ่
พล.อ.ประวิตร เห็นว่า ข้อเรียกร้องนี้จะสร้างปัญหามาก และจะเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ จึงนัดประชุมพรรคและร่วมกันลงความเห็นว่าเป็นเรื่องที่พรรคไม่สามารถทำได้ เพราะจะเสียหายต่อพรรคทั้งระบบ ดังนั้นเพื่อรักษาหลักการแห่งพรรค เอกภาพ เสถียรภาพ และอุดมการณ์ กรรมการบริหารพรรคจึงเห็นว่ารับไม่ได้กับเหตุการณ์ดังกล่าว
ท่านหัวหน้าอยากให้พลังประชารัฐเป็นสถาบันการเมือง จะให้มีภาพลักษณ์ที่แตกแยกกันแบบนี้ไม่ได้
ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันกับหัวหน้าพรรคว่า "หากไม่รับข้อเสนอ จะมีปัญหาต่อการบริหารพรรคแน่" จึงทำให้พรรคเห็นว่าเป็นเหตุร้ายแรงที่กระทบกับเอกภาพและเสถียรภาพของพรรค จึงได้จัดการประชุมก่อนที่ประชุมจะร่วมมีมติเห็นด้วย 63 เสียง จาก 78 เสียง ให้ ร.อ.ธรรมนัส และคณะรวม 21 คน พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค ตามข้อบังคบที่ 54(5) เนื่องจากมีเหตุร้ายแรงอื่นเกิดขึ้น
มติครั้งนี้เกิดจากความรู้สึกที่สอดรับกันว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะต้องแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่ฝังรากลึกจนกระทั่งเกินเยียวยาแล้ว
นายไพบูลย์ ระบุว่า หลังจากนี้พรรคจะต้องหาเลขาธิการพรรคคนใหม่ และพรรคจะดำเนินการจัดเตรียมเอกสาร นำส่งไปยัง กกต. ซึ่งจะมีผลในวันที่มีมติตามกฎหมาย แต่ทั้ง 21 คนจะยังเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อไป แต่ต้องเข้าเป็นสมาชิกพรรคใหม่ภายใน 30 วัน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (9)
ผมเชื่อว่า การที่มีมตินี้จะเป็นการแก้ไขให้ภาพลักษณ์ของพลังประชารัฐที่ผ่านมาถูกมองว่ามีปัญหามากจากความขัดแย้งของคนระดับสูงจะจบแน่นอน จบจริง ๆ
นายไพบูลย์ ยืนยันว่า มติพรรคพลังประชารัฐครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด พร้อมทิ้งท้ายว่า "ตอนนี้เรายังเหลืออยู่ร้อยคน รอดูที่เหลือ พรรคพลังประชารัฐจะมีเอกภาพ มีความมั่นคง"
ทั้งนี้ นายไพบูลย์ ยังได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว โดยย้ำว่า "ร.อ.ธรรมนัส เรียกร้องในเรื่องที่พรรคดำเนินการไม่ได้ คือการปรับโครงสร้างพรรคใหม่ ท่านไม่ได้บอกว่า ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ท่านบอกว่า ถ้าไม่ได้ก็ไม่ยอม จะเคลื่อนไหวด้วยมาตรการต่าง ๆ เมื่อไม่ยอมมันก็เป็นความขัดแย้งที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของพลังประชารัฐ"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
พปชร.ขับ "ร.อ.ธรรมนัส" พ้นพรรค คาดเตรียมต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี