จากเหตุมติของพรรคพลังประชารัฐ ขับให้พ้นพรรค ส่งผลให้สถานะของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ กลุ่มเพื่อน ส.ส.อีก 20 คน ต้องขาดสภาพความเป็นสมาชิกพรรคทันที ตามกฎหมายพรรคการเมืองกำหนดไว้ ทำให้ตำแหน่งฝ่ายบริหารพรรค 3 ตำแหน่งต้องว่างลง คือ เลขาธิการพรรค, รองเลขาธิการพรรค และนายทะเบียนพรรค
3 ตำแหน่งที่ว่างลงนี้ ก็ค่อนข้างมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนงานทางการเมือง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค จึงเตรียมนัดประชุมเพื่อเคาะบุคคลที่เหมาะสมมาขับเคลื่อน-ปิดช่องว่างทางการเมือง
ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ซึ่งก่อนหน้านี้มีชื่อเป็นแคนดิเดตลำดับต้น ๆ แต่ประกาศแล้วว่าไม่พร้อมนั่งในตำแหน่งเลขาธิการพรรคคนใหม่
ล่าสุดมีชื่อ 2 รัฐมนตรีของพรรคนายสันติ พร้อมพัฒน์ และสุชาติ ชมกลิ่น" เป็นคู่แคนดิเดต ติดโผชิงเก้าอี้เลขาธิการพรรคคนใหม่ แต่เงื่อนไขที่พรรคตั้งไว้ นอกจากจะต้องเป็นมือประสานสิบทิศกับพรรคการเมืองแล้ว แต่มาตรฐานในการขับเคลื่อนงานทางการเมืองต้องไม่ต่ำกว่า ร.อ.ธรรมนัส อดีต เลขาฯพรรค
ถ้าเทียบฟอร์ม วัดบารมี และเส้นทางการเมืองแบบชัด ๆ "สันติ พร้อมพัฒน์" น่าจะมีมากกว่า ทั้งเรื่องความอาวุโส-ความรู้-ความสามารถ โดยเป็น ส.ส.มาแล้วหลายสมัย และนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีมาหลายกระทรวง
สันติ พร้อมพัฒน์ เริ่มเล่นการเมืองตั้งแต่ปี 2537 สมัย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ก่อนย้ายเข้ามาสังกัดไทยรักไทย และพลังประชาชน ก่อนย้ายขั้วมาเล่นการเมืองในพลังประชารัฐ
ส่วน "สุชาติ ชมกลิ่น" เป็น ส.ส.2 สมัย เริ่มต้นเส้นทางการเมืองระดับชาติ โดยก้าวเข้าสู่ถนนการเมืองเมื่อปี 2554 ในนามพรรคพลังชล ก่อนหันมาซบพลังประชารัฐ และได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นครั้งแรก ขณะที่ตำแหน่ง "รองเลขาธิการพรรค และนายทะเบียนพรรค" อยู่ระหว่างการพูดคุย แต่เบื้องต้น พล.อ.ประวิตร จะเป็นกำกับดูแลภาพรวม