กองปราบฯ รวบคนเปิดบัญชีโอนเงินคดีพนันกำถั่ว หลังหนี 4 ปี

อาชญากรรม
26 ม.ค. 65
13:07
208
Logo Thai PBS
กองปราบฯ รวบคนเปิดบัญชีโอนเงินคดีพนันกำถั่ว หลังหนี 4 ปี
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ตำรวจกองปราบปรามใช้เวลา 4 ปี จับผู้ต้องหารับเป็นผู้เปิดบัญชีให้กับกลุ่มมิจฉาชีพใช้โอนเงินที่พรรคพวกตัวเองแอบอ้างเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ หลอกลวงผู้เสียหายเล่นพนันกำถั่ว สูญเสียเงินไป 2 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือยังอยู่ระหว่างการหลบหนี

วันนี้ (26 ม.ค.2565) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม แถลงจับ น.ส.ชณัชชา อายุ 38 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงจังหวัดนครปฐม ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง เนื่องจากตำรวจมีข้อมูลว่า น.ส.ชณัชชา ทำหน้าที่เปิดบัญชีใช้สำหรับให้กลุ่มมิจฉาชีพโอนเงิน ที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหาย

คดีนี้ตำรวจได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้เสียหาย ให้ช่วยติดตามตัว น.ส.ชณัชชา เนื่องจากมีพฤติกรรมหลอกลวงผู้เสียหายในลักษณะกลุ่มขบวนการที่เรียกว่า แก๊งกำถั่ว โดยเหตุเกิดเมื่อประมาณเดือน มี.ค.2561 ซึ่งขณะนั้นผู้เสียหายประกาศขายบ้านและแมนชั่นในราคารวม 43 ล้านบาท

 

ต่อมา ได้มีกลุ่มผู้ต้องหา จำนวน 4 คนติดต่อเข้ามาทำทีเป็นนายหน้าค้าที่ดิน เพื่อเสนอตัวช่วยประสานเกี่ยวกับการซื้อขายให้ เมื่อผู้เสียหายไว้ใจจากนั้นกลุ่มนี้ จึงชักชวนผู้เสียหาย ให้ไปเจอกับพวกตัวเองที่แอบอ้างตัวเป็นเสี่ยอสังหาริมทรัพย์

จากนั้น ได้มีการชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมเล่นพนัน ที่เรียกว่า กำถั่ว และเมื่อนายหน้าคนนี้แกล้งเสียพนัน เพื่อหาเหตุโทษว่าผู้เสียหาย ทำให้ต้องเสียเงินในการเล่นพนันกำถั่ว ไปจำนวน 2 ล้านบาท จึงเรียกร้องให้ผู้เสียหายชดใช้เงินจำนวน 2 ล้านบาทให้แก่กลุ่มมิจฉาชีพนี้ โดยผู้เสียหายคนนี้ยินยอมชำระเงินจำนวน 3 งวด รวม 2 ล้านบาท

 

ต่อมา ผู้เสียหายต้องการติดต่อกับนายหน้าเพื่อทวงถามการซื้อบ้าน แต่ไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงเชื่อว่าถูกกลุ่มคนเหล่านี้ร่วมกันหลอกลวงและชักชวนให้ไปเล่นการพนันกำถั่ว เป็นเหตุให้สูญเสียเงินไปจำนวน 2 ล้านบาท

คดีนี้ตำรวจใช้เวลาในการสืบสวนรวม 4 ปี กว่าจะจับกลุ่มขบวนการนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้เพียงแค่ 1 คนเท่านั้น คือ น.ส.ชณัชชา ส่วนผู้ต้องหา ที่เหลือยังอยู่ระหว่างการหลบหนี

 

เบื้องต้น น.ส.ชณัชชา ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมย้อนหลัง พบว่ามีหมายจับรวม 6 หมายจับ ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เป็นความผิดเกี่ยวกับร่วมกันฉ้อโกง

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มนี้หลอกลวง เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับไว้ที่กองปราบปรามอีกหลายคน มูลค่าความเสียหาย รวมกว่า 80 ล้านบาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

"พระนรวิชญ์" ขอร่วมงานพระราชทานเพลิงศพก่อนสึก-ตร.จ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม

"อาคเนย์ประกันภัย" ขอเลิกกิจการ หลังจ่ายโควิดเกือบหมื่นล้าน

ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง คดี "แม่ชัยภูมิ ป่าแส" ฟ้องเรียกค่าเสียหายกองทัพ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง