วันนี้ (27 มกราคม 2565) พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า กองทัพเรือได้รับแจ้งจากบริษัทสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน) มีน้ำมันดิบ รั่วไหล จากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบ กลางทะเลห่างจากชายฝั่งประมารณ 20 กิโลเมตร เมื่อคืนวันที่ 25 ม.ค.ทีผ่านมา แต่ทางบริษัทได้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ จนวันรุ่งขึ้น ทางกองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือ
โดยทางกองทัพเรือส่งเฮลิคอปเตอร์ ตรวจสอบคราบน้ำมันและทิศทาง และใช้สารเคมี dispersant ในการกำจัดคราบน้ำมัน และมีการนำเรือ ต.273 กับเรือ ต.228 ออกตรวจสอบคราบน้ำมันบนผิวน้ำ พร้อมทั้งศูนย์ควบคุมปฏิบัติในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ทัพเรือภาคที่ 1
ปรับแผนไม่ใช้สารเคมี-ล้อมทุ่นดักก่อนเข้าหาดท่องเที่ยว
ด้าน พล.ร.ต.วิจณุ ถูปาอ่าง ผอ.สำนักกิจการความมั่นคง กรมยุทธการทหารเรือ กองทัพเรือ กล่าวว่า หลังจากเมื่อวานนี้ (26 ม.ค.) ได้มีการนำสารกำจัดคราบน้ำมันได้สารเคมีชื่อ dispersant เพื่อให้จับตัวจมลงในทะเล โดยจะบินปฎิบัติการวันนี้ 4 เที่ยวบินเริ่มเวลา 13.00 น. ซึ่งประเมินแล้วพบคราบน้ำมันบนผิวน้ำประมาณ 20 ตัน และจะไม่ใช้สารเคมี เพราะถ้าเกิน 24 ชั่วโมงคุณภาพในการจับจะลดลง
ขณะนี้จึงมีการปรับแผนจะไม่ใช้สารเคมีดังกล่าว ตามแผนการเก็บกู้คราบน้ำมัน แบ่งเป็นการการกำจัดคราบที่เหลือ ถ้าเป็นคราบขนาดใหญ่ จะใช้ทุ่นล้อมกักน้ำมันไว้ ใช้เครื่องดูดเก็บเข้าในถัง 200 ลิตร ส่งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมทำลาย ตั้งเป้าไม่ให้ใกล้ฝั่งระยะ 10 เมตร เพราะจะอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมหากมีคราบน้ำมันหลุดเข้าชายฝั่งและพื้นที่เปราะบาง จะใช้ทุ่นล้อมดักและเปลี่ยนทิศไม่ให้เข้าชายฝั่ง
หากมีการหลุดเข้าฝั่ง ถ้าเป็นหาดหินจะต้องเร่งฉีดคราบน้ำมันให้รวมตัวกัน จัดเก็บไปทำลาย แต่หาดทรายจะใช้รถแบคโฮตักไปทำลาย ซึ่งการปฏิบัติงานต้องสวมชุดป้องกันกำหนดให้เก็บกู้ 10 ชั่วโมงต่อวัน เพราะสารพิษเป็นอันตรายกับผู้ปฎิบัติงานด้วย
ทั้งนี้จากโมเดลของกรมควบคุมมลพิษ OilMap พบว่าในวันที่ 28 ม.ค.นี้คราบน้ำมันอาจจะเคลื่อนที่เข้าชายฝั่งหาดแม่รำพึง และหมู่เกาะเสม็ด เวลา 17.00 น. และสอดคล้องแบบภาพถ่ายดาวเทียมของจิสดา พบว่ามีคราบน้ำมันมีพื้นที่ 2 เท่าของหมู่เกาะเสม็ด ทิศทางลมเคลื่อนทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะเข้าฝั่งแม่รำพึง และพื้นที่ใกล้เคียงได้
ตัวเลขน้ำมันรั่วยังคลาดเคลื่อน-คาดเก็บกู้เสร็จ 5 วัน
การแถลงข่าวครั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องตัวเลขน้ำมันดิบที่รั่วไหลลงทะเล เนื่องจากพบมีความคลาดเคลื่อนจากครั้งแรก ที่เคยแจ้งว่าน้ำมันรั่ว 400,000 ลิตร แต่ต่อมามีการรายงานตัวเลขเหลือเพียง 160,000 ลิตร และเหลือบนผิวน้ำทะเลแค่ 20,000 ลิตร ซึ่งมีการยืนยันว่าเป็นการประมาณการหน้างาน เพื่อให้มีการทำแผนเผชิญเหตุและการทำงาน
ไม่มีเจตนาปกปิด และเป็นเหตุสดวิสัยยิ่งปกปิดจะยิ่งทำให้เกิดปัญหา เป็นข้อที่ชี้แจงได้ และตัวเลขประมาณการคาดการณ์ไว้ ยังเชื่อถือได้
กองทัพเรือส่งเครื่องบินสำรวจทางอากาศ ดูผิวน้ำ และดูแนวโน้ม เหลือประมาณ 20,000 ลิตรและมองว่าความรุนแรงผลกระทบน่าจะเบากว่าที่คาดการณ์ไว้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"วราวุธ"งัดกฎหมายเอาผิด-ฟื้นฟูน้ำมันรั่วทะเลห่วงกระทบยาว 3-5 ปี