วันนี้ (27 ม.ค.2565) นายโสภณ ซารัมย์ ประธานกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร และนายนิกร จำนง รองประธานกรรมาธิการคมนาคม ร่วมกันแถลงหลังเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเรื่อง "มาตรการความปลอดภัยทางถนน" โดยยกกรณี "รถบิ้กไบค์ชนแพทย์หญิงเสียชีวิต" มาพิจารณาแก้ปัญหา
นายโสภณระบุว่า เรื่องความปลอดภัยทางถนนเป็นเรื่องสำคัญที่กรรมาธิการดำเนินการมาตลอด และเคยส่งความเห็นของอนุกรรมาธิการความปลอดภัยทางถนน ที่เคยศึกษาไว้แนะนำไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐให้ปฏิบัติตามเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เชื่อหากหน่วยงานนำไปดำเนินการจะไม่เกิดความสูญเสียเช่นวันนี้
นายโสภณ ยกตัวอย่างลูกชายซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั้งที่ไม่ได้ทำผิดกฎจราจรจึงต้องการให้สังคมได้ตระหนักความสำคัญ และนำบทเรียนจากกรณีดังกล่าวมาขับเคลื่อนให้เกิดความปลอดภัยให้สำเร็จ และจะประสบสำเร็จฝ่ายบริหารต้องให้ความสำคัญมากกว่านี้ สิ่งที่กรรมาธิการให้ความเห็นต่อหน่วยงานที่เข้ามาชี้แจงว่า ควรให้ความสำคัญ 3 เรื่อง
1.จิตสำนึกที่ควรควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งควรแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับจราจรอย่างเป็นระบบ 2.การบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะเชิญตัวแทนศาลมาให้ข้อสังเกตถึงการบังคับใช้กฎหมาย เช่น การรอลงอาญา, การเยียวยาผู้เสียหาย ซึ่งเมื่อเรื่องจบแต่ผู้กระทำความผิดไม่ได้เกรงกลัว และ 3.การใช้โครงข่ายถนน
ด้านนายนิกร จำนง รองประธานกรรมาธิการคมนาคม ซึ่งได้เปิดเผยว่า ตนเองเป็นผู้เสียหายที่เคยถูกรถชนเมื่อปี 2531 เห็นควรกับการปฏิรูปเรื่องดังกล่าวเรื่องดังกล่าว เบื้องต้นจากการชี้แจงของกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน แจ้งว่า พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการไปยังจังหวัดต่าง ๆ ให้ตรวจสอบเส้นทางม้าลายและการจราจรในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งกรรมการจะประชุมในช่วงบ่ายวันนี้ โดยกรรมาธิการจะติดตามผลการประชุม ซึ่งเชื่อว่า เมื่อมีการสั่งการไปแล้ว ผู้ปฏิบัติในจังหวัดต่าง ๆ จะเร่งดำเนินการ
ส่วนการชี้แจงของตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องของการดำเนินคดี อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบความเร็วของรถซึ่งจุดที่เกิดเหตุไม่ได้กำหนดความเร็วของรถ
ขณะที่กรมขนส่งทางบกกรรมาธิการได้เสนอให้แยกประเภทใบขับขี่บิ้กไบค์กับใบขับขี่รถจักรยานยนต์ปกติ ส่วนเรื่องการกระทำผิดจราจรและถูกตัดแต้ม ทางกรมขนส่งทางบกชี้แจงว่า ยังไม่ได้มีการบังคับใช้อย่างจริงจังเนื่องจากรอลงนามความร่วมมือกับ สตช.
ขณะที่กรรมาธิการยังไม่เป็นที่พอใจ กรณีการชี้แจงตัวแทนจากกรุงเทพฯ ที่เน้นเรื่องจำนวนคนข้ามถนนและอ้างเรื่องทางม้าลายมีหลายแห่ง ทั้งที่กรรมาธิการต้องการทราบว่า จะแก้ปัญหาอย่างไรกับจุดที่เกิดเหตุและจุดอื่น ๆ ที่มีลักษณะที่มีลักษณะเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ทาง กทม.ยังชี้แจงไม่ชัดเจนว่าทางม้าลายได้มาตรฐานหรือไม่และไม่ใช่เพียงทางสีใหม่ หลังเกิดเหตุเท่านั้นจะต้องดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาไม่ใช่มวยล้มต้มคนดู
"ทางกรรมาธิการได้กำชับตัวแทน สตช. ในเรื่องการดำเนินคดีว่าต้องทำอย่างตรงไปตรงมา อย่าให้กรณีของหมอกระต่ายซึ่งเสียชีวิตทั้งที่ไม่ได้กระทำผิด และการดำเนินคดีของทางตำรวจทุกสายตา ก็เฝ้ามองคดีนี้อยู่การดำเนินคดีต้องเป็นไปด้วยความเป็นธรรมเพื่อไม่ให้สูญเสียอีก" นายโสภณกล่าว