เร่งชันสูตรซาก "โลมา" ลอยกลางทะเลระยอง

สิ่งแวดล้อม
30 ม.ค. 65
16:54
310
Logo Thai PBS
เร่งชันสูตรซาก "โลมา" ลอยกลางทะเลระยอง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ทช.เร่งชันสูตรซากโลมาลอยกลางทะเล ขณะที่ผู้ว่าฯ ระยอง เผยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดตายมานาน 5 วัน เร่งหาสาเหตุที่แน่ชัด ขณะที่กองทัพเรือ-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกางบูมป้องกันแนวอุทยานฯ เขาแหลมหญ้า และเกาะเสม็ด ความยาว 500 เมตร ป้องกันคราบน้ำมันเข้าพื้นที

ความคืบหน้าเหตุน้ำมันดิบรั่วไหล ท่าเรือมาบตาพุด ของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) เมื่อวันที่ 25 ม.ค.2565 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติการควบคุมและกำจัดคราบน้ำมันทั้งในทะเลและบริเวณริมชายหาดแม่รำพึง จ.ระยอง

วันนี้ (30 ม.ค.2565) พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ปัจจุบันพบคราบน้ำมันกระจายเป็นกลุ่มบริเวณกว้างในพื้นที่ชายทะเล ชายหาดแม่รำพึง โดยข้อมูลจากภาพถ่ายของจิสด้า และการลาดตระเวนจากอากาศยานกองทัพเรือ พบคราบน้ำมันกลุ่มใหญ่ ลักษณะเป็นฟิล์มบาง ไม่พบคราบน้ำมันที่ชัดเจน ประเมินการเคลื่อนที่น่าจะเข้าฝั่งบริเวณหาดแม่รำพึง จากการคำนวณคาดว่า ส่วนหนึ่งมีโอกาสจะเข้าที่บริเวณเขาแหลมหญ้า และเกาะเสม็ด

จากการสำรวจเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (30 ม.ค.) พบกลุ่มคราบน้ำมันสีดำบาง ๆ บริเวณชายหาดแม่รำพึงทุกช่วง บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า และเกาะเสม็ด ส่วนในพื้นที่ทะเลพบกลุ่มคราบน้ำมันเป็นฟิล์มบาง ๆ ยังไม่พบกลุ่มคราบน้ำมันสีดำขนาดใหญ่ ขณะที่บริเวณชายฝั่งพบกลุ่มน้ำมันบาง ๆ บริเวณหาดแม่รำพึง 2 จุด คือ ลานหินดำ และหน้าสบายสบายรีสอร์ท ความยาว 400 เมตร รวมถึงคราบน้ำมันที่ท่าเรือของ IRPC

 

พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ทำหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมการปฏิบัติ กล่าวว่า ได้เริ่มปฏิบัติงานมากว่า 4 วัน โดยน้ำมัน 50,000-60,000 ลิตร ตามที่บริษัทได้แจ้ง เป็นจำนวนค่อนข้างมาก

"น้ำมันตัวเลขไม่แน่นอน SPRC เนื่องจาก Press release 3 ฉบับ เป็น 3 ตัวเลข แต่ที่ประชุมมองไปถึงเคสร้ายแรงที่สุด 400,000 ลิตร การปฏิบัติตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้ใช้ตัวเลข 400,000 ลิตร ป้องกันถึงขีดสุด"

ในทะเลยังปฏิบัติการขจัดคราบโดยการราดปูน เบี่ยงเบนทิศทางคราบน้ำมัน และตีกวนคราบน้ำมันที่เป็นฟิล์มในแตกกระจายและระเหยไป

ส่วนบนบก เมื่อวานนี้ คราบน้ำมันขึ้นมาจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณหาดแม่รำพึง (คลองหัวรถ) โดยทีมปฏิบัติการชายฝั่ง ใช้รถสูบและเจ้าหน้าที่ดำเนินการจัดเก็บ เช่นเดียวกับแผนในวันนี้เมื่อน้ำมันขึ้นมาจุดในก็จะมีทีมปฏิบัติการ

ทั้งนี้ หัวน้ำมันที่เป็นคราบมีโอกาสเข้าไปที่ช่องระหว่างเกาะเสม็ดและอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า ความกว้างของช่องประมาณ 500 เมตร โดยได้บูมไปกางป้องกัน ส่วนกรณีฟิล์มบาง ๆ ขออย่ากังวลเพราะสามารถระเหยได้ด้วยกระแสคลื่นและกระแสน้ำ

ทำทุกอย่างที่เราจะทำได้ เพื่อให้คราบน้ำมันหมดไปโดยเร็ว

เร่งหาสาเหตุ "โลมา" ตาย

ขณะที่นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า ขณะนี้เหลือฟิล์มน้ำมันบาง ๆ ในบางช่วง ส่วนกลุ่มก้อนน้ำมันแทบจะหมดแล้ว ต้องเฝ้าระวังน้ำมันที่จับตัวแล้วแขวนลอย ซึ่งจะถูกจุลินทรีย์เข้าไปย่อยสลาย คาดว่าใช้เวลา 8-10 วัน ขณะนี้เข้าวันที่ 5 แล้ว น่าจะเฝ้าระวังเข้มข้นอีก 3-5 วัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ยังกล่าวถึงกรณีแจ้งพบซากโลมา ว่า ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ว่า จุดที่พบบริเวณซาก เป็นเขื่อนหน้าท่าเรือบ้านเพ ประเมินว่าโลมาตัวดังกล่าวตายมาไม่น้อยกว่า 5 วัน อยู่ระหว่างหาสาเหตุการตายที่ชัดเจน เนื่องจากเกิดก่อนเหตุการณ์น้ำมันรั่ว

ขณะที่เฟซบุ๊ก Bas Fishing Man ไลฟ์สดเหตุการณ์ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เก็บซากโลมาดังกล่าวไปตรวจสอบ โดยได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระบุว่า เป็นโลมาปากขวด

จิสด้าใช้ดาวเทียมตรวจสอบคราบน้ำมัน เย็นนี้

ด้าน GISTDA เผยภาพจากดาวเทียมไทยโชต ซึ่งบันทึกภาพเมื่อวันที่ 30 ม.ค.2565 เวลา 10.16 น. ไม่พบคราบน้ำมันในบริเวณหาดแม่รำพึง รวมถึงพื้นที่เฝ้าระวังในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด

อย่างไรก็ตาม GISTDA จะใช้ดาวเทียม RADARSAT-2 ซึ่งเป็นดาวเทียมระบบเรดาร์ ทำการบันทึกภาพในวันนี้ ช่วงเวลา 18.40 น. เพื่อตรวจสอบคราบฟิล์มน้ำมันดิบอีกครั้ง เนื่องจากระบบเรดาร์สามารถตรวจสอบพื้นที่บริเวณที่ปนเปื้อนคราบน้ำมันที่สายตาไม่สามารถมองเห็นได้ เพื่อความมั่นใจว่าไม่มีคราบน้ำมันในท้องทะเลแล้ว

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประกาศเขตภัยพิบัติ "หาดแม่รำพึง" เก็บคราบน้ำมันได้ 1.5 หมื่นลิตร 

เฝ้าระวัง! ทิศทางคราบน้ำมันมุ่งหน้าเข้าอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง