กลายเป็นเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจของหญิงกลุ่มชาติพันธุ์ชาวมานิ ที่ได้รับโอกาสทางการศึกษาเรียนต่อระดับชั้นมัธยมศึกษา จนสามารถทำตามความฝันสอบติดคณะพยาบาลศาสตร์และวิทยาการสุขภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ได้สำเร็จ
หนึ่งในกิจวัตรประจำวันตลอด 11 ปี ของ น.ส.บิว ศรีธารโต หรือ บิว นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 จ.สตูล คือการเข้าเรียนไม่ขาด จดบันทึก และทบทวนบทเรียนสม่ำเสมอ จนท้ายที่สุดสามารถสอบติดคณะพยาบาลฯ ได้สำเร็จ
น.ส.บิว เป็นนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์มานิ ที่ได้เข้ามาศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษา เพื่อตามหาฝันที่ตั้งใจว่าจะเรียนให้จบเพื่อไปเป็นพยาบาล ดูแลชุมชนและคนในครอบครัวกลุ่มชาติพันธุ์ชาวมานิด้วยกันให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
น.ส.บิว บอกว่า หลังทราบว่าสอบติดคณะพยาบาลศาสตร์และวิทยาการสุขภาพมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี พ่อแม่และทุกคนในครอบครัวต่างดีใจและภูมิใจ เพราะเป็นความฝันและความตั้งใจของตนเองตั้งแต่แรก
ด้าน นางสุพรรณษา แก้วเพิ่มพูน ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 บอกว่า น้องบิวมาศึกษาที่นี่ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จนถึงขณะนี้อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยเป็นคนร่าเริง เข้ากับเพื่อนได้ดี และยังมีผลการเรียนดี
ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 ยังบอกว่า จ.สตูล ได้ดูแลนักเรียนด้อยโอกาสทางการศึกษาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แบบอยู่ประจำทั้งหมด โดยที่โรงเรียนแห่งนี้มีเด็กนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์มานิ 7 คน จบไปแล้ว 1 คน
การเข้าถึงการศึกษาของกลุ่มชาติพันธุ์มานิ
การเข้าถึงการศึกษาของกลุ่มเด็กชาติพันธุ์มานิ เป็นสิ่งที่ช่วยให้พวกเขาสามารถนำองค์ความรู้ไปพัฒนาท้องถิ่นและหมู่บ้านของตัวเองได้ แต่ก่อนหน้านี้อุปสรรคหลักยังเป็นเรื่องการได้รับสัญชาติ
แม้ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กรมการปกครองมีคำสั่งให้นายอำเภอทุกอำเภอแก้ไขสถานะบุคคลให้ชาวมานิและจาไฮ โดยรับรองสิทธิในสัญชาติไทยซึ่งเป็นสิทธิที่พวกเขามีตั้งแต่เกิด แต่พบว่าทั้งสองกลุ่มชาติพันธุ์ บางส่วนยังตกอยู่ในสภาพของคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงศึกษาของเด็กชาวมานิเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเข้าถึงสวัสดิการต่างๆ ของรัฐด้วย
ขณะเดียวกันมีชาวมานิอีกไม่น้อยที่ได้รับสัญชาติไทยและมีสิทธิในฐานะคนไทยเพิ่มขึ้น เห็นได้จากการเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ที่ ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล มีชาวมานิที่มีสิทธิเลือกตั้ง 32 คน จากจำนวนคนในหมู่บ้าน 86 คน