"เดชอิศม์" รับไม่รู้มาก่อน "ถวิล ไพรสณฑ์ " ย้ายซบ "ก้าวไกล"

การเมือง
9 ก.พ. 65
11:05
1,531
Logo Thai PBS
"เดชอิศม์"  รับไม่รู้มาก่อน "ถวิล ไพรสณฑ์ " ย้ายซบ "ก้าวไกล"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"เดชอิศม์" เผยไม่ทราบมาก่อนว่า "ถวิล" จะออก ปัดเดินเกมส์ไล่ "จุติ" ออกจาก รมว.พัฒนาสังคมฯ

วันนี้ ( 9 ก.พ.2565) นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมพรรคก่อนหน้านี้ มีบางคนหารือเพียงการให้เข้มงวดกวดขันการทำงานของรัฐมนตรี ให้เป็นประโยชน์กับพรรคและประชาชน โดยยืนยันไม่มีเรื่องเกมขับไล่นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ย้ำไม่มีแม้แต่เปอร์เซนต์เดียว เพราะจะกลายเป็นแรงเสียดทานปัญหาในพรรคประชาธิปัตย์ และได้โทรหานายจุติแล้วแต่ว่าไม่รับสาย กรณีมีคนในพรรคลาออกแล้วไปสังกัดพรรคก้าวไกล อย่างนายถวิล ไพรสณฑ์ นั้นไม่ทราบก่อนล่วงหน้า

ส่วนการประชุม ส.ส.ประชาธิปัตย์ พรรคได้คุยเรื่องการลงพื้นที่และใกล้ชิดกับประชาชน-ใจถึง-พึ่งได้-ติดดิน เพราะจะหวังกระแสนิยมไม่ได้ต้องใช้วิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย และแม้จะมีคนเก่าออกไปจากพรรคแต่ก็มีคนใหม่เข้าพรรคเช่นกัน เด็ด ๆ ทั้งเด็กจบนอก และคนจบปริญญาโท ย้ำมีคนเข้ามากกว่าคนออกทุกเขตเลือกตั้งพิจารณาลงเขตเลือกตั้งที่ว่าง

ส่วนคนเก่าก็จะพิจารณาให้ลงสมัครก่อนหากยังมีโอกาสรักษาเก้าอี้ ส.ส.ไว้ได้ ชี้ศึกเลือกตั้งไม่มีศึกไหนหนักเท่าสนามแล้วตั้งที่ผ่านมาแล้ว และยังคงอ่อนน้อมถ่อมตนตั้งเป้า ส.ส.ภาคใต้จำนวน 35 คน หากจะมากกว่านี้ก็ถือว่าเป็นกำไร

สำหรับผู้ที่ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ได้ชี้แจงว่า ทุกวงการไม่มีใครสมหวังได้ 100% จึงต้องมีการอธิบายทำความเข้าใจกัน อ้างอิงผลสำรวจความคิดเห็นหรือ โพล ที่พรรคทำตลอดเช็กเรตติ้งพรรคและตัวบุคคลที่ลงสมัคร และไม่กังวลที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.ปชป. ไปอยู่พรรคสร้างอนาคตไทยเพราะยังคุยกันเหมือนพี่น้องและยังเคารพกันเหมือนเดิม เปรียบเหมือนนักฟุตบอลอาชีพเมื่อเสร็จจากการแข่งขันก็ยังเป็นพี่น้องเพราะยังเป็นคนใต้ด้วยกันและคนไทยด้วยกัน

ทั้งนี้ในที่ประชุม ส.ส. ไม่ได้มีการพูดคุยถึงกรณีที่ 7 รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยไม่เข้าร่วมประชุม ครม.เพราะเป็นเรื่องใน ครม.ให้รัฐมนตรีคุยกันเอง ยอมรับอาจจะสะท้อนภาพความเห็นไม่ตรงกันของคนในพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจากบางคนอาจมองว่า อำนาจเรื่องการพิจารณาต่อสัมปทานรถไฟฟ้าอาจจะอยู่ที่กระทรวงคมนาคม แต่อีกมุมหนึ่งมองว่าอาจจะอยู่อีกกระทรวงหนึ่งหรือมาถึงกระทรวงมหาดไทย สรุปเป็นความเห็นที่ไม่ตรงกัน แต่เชื่อว่ารัฐบาลยังคงไปต่อได้ และอยู่ที่นายกรัฐมนตรีจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และเชื่อมั่นว่า หากตัวเองได้อยู่ข้างนายกจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง