ถกทางออก "เสือโคร่งพิการ" ผลักดันเข้าป่า-จับมาดูแล?

สิ่งแวดล้อม
10 ก.พ. 65
13:39
575
Logo Thai PBS
ถกทางออก "เสือโคร่งพิการ" ผลักดันเข้าป่า-จับมาดูแล?
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมอุทยานฯ ประชุมผู้เชี่ยวชาญกรณีกล้องดักถ่ายพบ "เสือโคร่งพิการ" ขาขวาขาด ยังไม่ชี้ชัดเป็นตัวที่ทำร้ายชาวบ้านปิล๊อกคี่ จ.กาญจนบุรี พร้อมศึกษาผลกระทบและหาทางออกที่เหมาะสมว่าเสือควรอยู่ในป่าต่อไป หรือจับมาดูแล

ความคืบหน้ากรณีอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และอาสาสมัครมูลนิธิฟรีแลนด์ เข้าไปติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า จำนวน 20 ตัว จ.กาญจนบุรี จุดเกิดเหตุเสือโคร่งทำร้ายชาวบ้านที่เข้าไปเลี้ยงควายบริเวณป่าบ้านห้วยสะมะท้อ ได้รับบาดเจ็บ กระทั่งปรากฎภาพเสือโคร่ง 1 ตัว ลักษณะขาหลังข้างขวาขาด กำลังกินซากควายอยู่

 

วันนี้ (10 ก.พ.2565) นายสมปอง ทองสีเข้ม ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ ว่า ยังไม่แน่ชัดว่าเสือโคร่งตัวใดทำร้ายชาวบ้าน บ้านปิล๊อกคี่ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี แต่ภาพจากกล้องดักถ่ายในป่า พบเสือโคร่ง 1 ตัว เป็นเสือพิการ ขาหลังข้างขวาขาด

ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงว่าเป็นเสือตัวที่กัดชาวบ้าน ซึ่งจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้

ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวว่า นายหวาน ชาวบ้านที่ถูกเสือทำร้าย บอกว่า เสือตัวที่ทำร้ายตนเอง ไม่ใช่เสือที่ถ่ายภาพได้ เพราะในวันเกิดเหตุเสือมีลักษณะตัวใหญ่กว่านี้ ส่วนตัวยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ขณะนี้เป็นเพียงการบอกเล่า

 

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญอยู่ระหว่างตรวจสอบลายของเสือโคร่งว่าอยู่ในฐานข้อมูลเสือของไทยหรือไม่ หรือเป็นเสือโคร่งที่เดินข้ามมาจากฝั่งเมียนมา ส่วนแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านในพื้นที่นั้น จะศึกษาข้อมูลผลกระทบ และหารือว่าจะผลักดันเข้าป่า หรือดักจับมาดูแล ซึ่งปกติเสือโคร่งจะอยู่ในป่าลึก ไม่เข้าใกล้คน แต่เสือตัวดังกล่าวมีความพิการ อาจจับสัตว์ป่าในธรรมชาติไม่ได้ จึงเข้ามาหาสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมปอง เตรียมประชุมร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ ในวันนี้ (10 ก.พ.) เพื่อหามาตรการแก้ปัญหาและตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเป็นเสือของไทยหรือไม่ และลักษณะเป็นการเคลื่อนที่ผ่านเส้นทาง หรืออยู่อาศัยในพื้นที่ป่าดังกล่าวแล้ว

ชาวบ้านปิล๊อกคี่ เริ่มประกาศขายวัว-ควาย 

ด้านนายประสาท แดงเถิน ผู้ใหญ่บ้านปิล๊อกคี่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ชาวบ้าน 5 คน ยิงเสือที่มากัดกินวัว-ควาย จนต้องถูกดำเนินคดี และอุทยานแห่งชาติเขาแหลมประกาศขับไล่ออกจากพื้นที่ ขณะนี้ปัญหาวัว-ควายถูกเสือกัดจนตายและบาดเจ็บยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ชาวบ้านจะต้อนวัวควายลงมาจากป่า และนำเข้ามาไว้ใกล้หมู่บ้านแล้วก็ตาม ขณะที่อุทยานฯ ได้ประกาศห้ามชาวบ้านเข้าไปเลี้ยงควายในพื้นที่ป่าของอุทยานฯ

ส่วนชาวบ้านที่ต้องการเข้าป่าไปดูแลวัว-ควาย ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทำให้เกิดปัญหาไม่สามารถดูแลวัว-ควายได้เหมือนในอดีต ที่สำคัญเมื่อต้อนวัว-ควายกลับมาใกล้หมู่บ้าน เกิดปัญหาสร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้านที่ทำการเกษตร เช่น มันสำปะหลัง สวนกล้วย เนื่องจากวัว-ควาย เข้าไปทำลายพืชผลทางการเกษตรของเพื่อนบ้าน ชาวบ้านบางคนจึงประกาศขายวัว-ควายที่เลี้ยงไว้ เพื่อแก้ปัญหาและลดความขัดแย้งกับเพื่อนบ้าน ขณะนี้มีวัว-ควายที่ถูกประกาศจะขายแล้วกว่า 30 ตัว

ตั้งข้อสังเกต ก่อนเป็น "เสือพิการ" 

ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก "Thailand Tiger Project DNP" โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าวว่า ผิดธรรมชาติ “เสือสามขา ผู้น่าสงสาร” เป็นประเด็นที่สังคมมนุษย์กำลังให้ความสนใจ และแตกเป็นสองแนวคิด คือ นำมาอยู่ในที่ปลอดภัย เพราะสงสารต้องสงเคราะห์ช่วยเหลือ, ปล่อยให้เป็นตามครรลองธรรมชาติ เพราะป่าไม้คือที่อยู่ของสัตวป่าที่เหมาะสม

แต่น่าประหลาดใจที่น้อยคนจะสนใจถึงสาเหตุที่มันต้องกลายเป็นเสือสามขา ซึ่งเป็นลักษณะที่ไม่ได้เกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ จึงพยายามคิดหาสาเหตุร้อยแปดพันเก้าที่จะพอเป็นไปได้ถึงขั้นคิดว่า “เฮ้ย จระเข้งับเป็นไปได้มั้ยเนี่ย” แล้วก็มาตกผลึกที่สาเหตุเดียว คือ "มนุษย์" นี่เองที่สร้างเสือที่มีลักษณะผิดธรรมชาติตัวนี้

 

มื้ออาหารที่กินจนถูกจับโป๊ะได้ว่าเป็นแค่เสือสามขาผู้น่าสงสาร คือ ควาย ควายที่เป็นปศุสัตว์ ไม่ใช่ควายป่า เมื่อได้พินิจดูแผนที่ที่ได้รับมา จุดที่ถ่ายเสือได้เป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างลาดชัน ในป่าอนุรักษ์ที่ถูกประกาศให้เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติ

อุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับใช้ประโยชน์เชิงนันทนาการสำหรับคนทุกคน ไม่ใช่พื้นที่สำหรับเลี้ยงปศุสัตว์แบบเอกคลูซีฟ เมื่อเสือโคร่งเจอเหยื่อมันก็แยกไม่ได้ว่าเป็นสัตว์ปล่อย หรือสัตว์ป่า ที่รู้ได้ด้วยสัญชาตญาณ นั่นคือ "เหยื่อ"เหตุการณ์แบบนี้ มนุษย์อีกนั่นเองที่รู้ว่า อะไรที่ “ผิดธรรมชาติ” ท้ายสุดเสือต้องเป็นสัตว์ป่าที่อยู่ ผิดธรรมชาติ หรือว่าสัตว์ที่ไม่ใช่ธรรมชาติ ควรอยู่ในป่าธรรมชาติ?

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

บ่งชี้รูปคดี! DNA “เสือโคร่ง” ถูกฆ่าป่าทองผาภูมิ เป็นแม่ลูกกัน 

“เสือโคร่ง” ทำร้ายชาวบ้านปิล๊อกคี่ ลำเลียงคนเจ็บทางเรือส่ง รพ. 

ติดกล้องดักถ่าย "เสือโคร่ง" - จัดชุดลาดตระเวนป่าบ้านปิล๊อกคี่ 

หลักฐานภาพถ่าย "เสือโคร่ง" ใกล้บ้านปิล๊อกคี่-พบขาขวาขาด 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง