บ่งชี้รูปคดี! DNA “เสือโคร่ง” ถูกฆ่าป่าทองผาภูมิ เป็นแม่ลูกกัน

สิ่งแวดล้อม
10 ก.พ. 65
12:46
2,453
Logo Thai PBS
บ่งชี้รูปคดี!  DNA “เสือโคร่ง” ถูกฆ่าป่าทองผาภูมิ เป็นแม่ลูกกัน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ผลดีเอ็นเอเสือโคร่ง 2 ตัวถูกฆ่ารมควัน ชำแหละหนังกลางป่าทองผาภูมิเมื่อ 1 เดือนก่อนเป็นตัวเมีย และเป็นเสือแม่-ลูกกัน ชี้มีผลต่อรูปคดี ชัดว่าเสือถูกล่าในจุดเดียวกัน เพราะเสือแม่-ลูกต้องอยู่ด้วยกันถึง 3 ปี เตรียมเทียบวัตถุพยานอื่นจำลองเหตุการณ์

วันนี้ (10 ก.พ.2565) นายสมปอง ทองสีเข้ม ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ ว่า กรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ตรวจยึดและจับกุมชาวบ้านปิล๊อกคี่ 5 คนร่วมกันฆ่าเสือโคร่ง 2 ตัว ถลกหนังย่างรมควันเมื่อช่วงกลางเดือนม.ค. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้หลังจากมีการส่งหลักฐานซากเสือโคร่งที่ถูกฆ่ามาตรวจที่ศูนย์ปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ เพื่อตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ และหาเพศของเสือโคร่งทั้ง 2 ตัว

ผลพิสูจน์ดีเอ็นเอเสือโคร่ง 2 ตัวพบเป็นตัวเมีย และเป็นเสือแม่ลูกกัน โดยลูกมีอายุเพียง 1 ปีโดยนิเวศวิทยาแม่เสือกับลูกต้องอยู่ด้วยกันตลอดกว่าลูกจะเลิกกินนมและแยกตัวออกช่วง 3-4 ปี

บ่งชี้รูปคดีอย่างไร?

ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวอีกว่า การที่เสือพิสูจน์ว่าเสือทั้ง 2 ตัวเป็นแม่ลูกกัน ชี้ให้เห็นว่าขณะที่เสือโคร่งถูกล่าอยู่ด้วยกัน ไม่ได้ถูกล่าคนละจุดเด็ดขาด หรือยิงคนละที่แล้วเอาซากมา ตรงนี้มีผลต่อรูปคดี ซึ่งต้องดูว่าการให้ปากคำของผู้กระทำผิดให้ปากคำแบบไหน มันจะเป็นตัวเชื่อมโยงได้ ไม่ใช่บอกว่าตัวหนึ่งยิงฝั่ง ไทยอีกตัวยิงในฝั่งเมียนมา

อ่านข่าวเพิ่ม ตร.มั่นใจคดี “ล่าเสือ” เอาผิดได้ ไม่เชื่อฆ่าเพราะกินวัว-โยงค้าสัตว์ป่า

เทียบวัตถุพยานจำลองเหตุการณ์วันถูกฆ่า

สำหรับกรณีของเสือตัวแม่ พบว่าในฐานข้อมูลพบว่าปี 2563 กล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าเคยถ่ายติดที่เขตทองผาภูมิ แต่ยังไม่มีลูกหรือถ่ายไม่เห็นตัวลูก แต่เสือโคร่งในพื้นที่ห่างแนวเขตห่างจากตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา 10 กม เป็นเสือที่ไปมาๆได้โดยธรรมชาติ

ทางคดีต้องเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน และต้องสู้กันด้วยพยานหลักฐาน เมื่อรูปแบบวิธีการทั้ง ชำแหละ การรมควันหนัง เอากะโหลก ผลว่ากลุ่มคนเหล่านี้ทำเพื่อการค้าหรือแค่ดำรงชีพ

 

ด้าน ดร.กณิตา อุ่ยถาวร ผอ.ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯกล่าวว่า ขณะนี้ผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ จากหนังเสือทั้ง 2 ตัว ยืนยันว่าเป็นเสือตัวเมีย และเป็นแม่ลูกกัน ขั้นตอนจากนี้จะตรวจสอบเทียบจากวัตถุพยานที่ตำรวจเก็บมาจากจุดเกิดเหตุแต่ละจุด เช่น เก็บก้านสำลีเปื้อนเลือด ชิ้นเนื้อ รวมทั้งร่องรอยอาวุธปืนที่พบในตัวเสือเพื่อแยกวัตถุพยานและเทียบวัตถุพยาน

มีการประสานกับทีมนิติวิทยาศาสตร์ โดยจะนำผลดีเอ็นเอของเสือโคร่งไปเทียบวัตถุพยานจากที่เก็บมาทั้งหมด เพื่อจำลองเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ วิถีกระสุน เพราะจะทำให้รู้ว่าเสือแม่ลูกนี้ถูกฆ่าใกล้กัน หรือถูกล่าอย่างไร

ทั้งนี้การตรวจสอบจะใช้เวลาสักระยะหนึ่ง เพราะต้องให้เกิดความแม่นยำเพราะจะมีผลต่อรูปคดีของผู้ต้องหาในคดี 

สำหรับคดีล่าเสือโคร่ง 2 ตัวในพื้นที่ป่าทองผาภูมิ ผู้ต้องหาทั้ง 5 คนซึ่งเป็นชาวบ้านปิล๊อกคี่ ได้รับการประกันตัวเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมาหลังถูกแจ้งข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่า โดยชาวบ้านอ้างเหตุผลฆ่าเสือเพราะเข้ามากินวัวควายที่นำมาเลี้ยงในเขตป่า 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

วบรายที่ 5 ร่วมฆ่า "เสือโคร่ง" อุทยานฯ ชี้พฤติการณ์พรานอาชีพ

 ฝากขังวันนี้ผู้ต้องหา 5 คน คดีล่าเสือโคร่ง ตร.แจ้งเพิ่ม 1 ข้อหา

ตั้งข้อหา 5 คน ล่า "เสือโคร่ง" ทองผาภูมิ สอบต้นตอใช้ปืน อปพร.

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง