วันนี้ (11 ก.พ.2565) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 15,242 คน จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 15,060 คน ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 182 คน ผู้ป่วยสะสม 337,680 คน (ตั้งแต่ 1 ม.ค.2565) หายป่วยกลับบ้าน 8,955 คน หายป่วยสะสม 258,841 คน ผู้ป่วยกำลังรักษา 111,393 คน ปอดอักเสบ 569 คน และใส่ท่อช่วยหายใจ 113 คน ส่วนผู้เสียชีวิตวันนี้เพิ่มอีกเสียชีวิต 23 คน
ขณะเดียวกัน กรมควบคุมโรค รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK อีก 8,268 คน
กรุงเทพฯ มีรายงานพบผู้ติดเชื้อมากที่สุดในวันนี้ 3,019 คน รองลงมา สมุทรปราการ 979 คน ชลบุรี 785 คน นนทบุรี 615 คน ภูเก็ต 412 คน สมุทรสาคร 347 คน นครปฐม 318 คน ราชบุรี 314 คน ปทุมธานี 302 คน นครศรีธรรมราช 297 คน
กทม.เปิดยอดป่วยโควิด วันนี้เขตไหนสูงสุด
กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ เปิดเผยจำนวนผู้ป่วยรายเขตที่มีที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ วันนี้รวม 50 เขต แบ่งเป็น ที่อยู่ขณะป่วยอยู่ใน กทม. 2,326 คน ที่อยู่ขณะป่วยอยู่ต่างจังหวัดเข้ารักษา รพ. ใน กทม. 693 คน อยู่ระหว่างติดตามที่อยู่ขณะป่วย 53 คน รวมทั้งหมด 3,019 คน สำหรับ 10 อันดับเขตที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด มีดังนี้
1. สายไหม 150 คน
2. ป้อมปราบศัตรูพ่าย 143 คน
3. บางกอกน้อย 127 คน
4. ดินแดง 102 คน
5. บางพลัด 86 คน
6. บางแค 85 คน
7. ราชเทวี 83 คน
8. บางเขน 70 คน
9. ปทุมวัน 63 คน
10. ตลิ่งชัน 61 คน
กทม.อัปเดตสายด่วนโควิด
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชื่อ "ผู้ว่าฯ อัศวิน" โดยกล่าวถึงการเตรียมพร้อมสายด่วนศูนย์รับรองผู้ป่วยโควิด-19 EOC ทั้ง 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ โดยระบุว่า
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้น จากการติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ที่ติดเชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่นๆ และจากการพบปะและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลที่ผ่านมา
จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อยังอยู่ในเกณฑ์ที่ระบบรักษาสามารถรองรับได้ ทั้งการนำผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาที่สามารถแจ้งได้สะดวกผ่านสายด่วน สปสช. โทร 1330 กด 14 และ สายด่วนศูนย์เอราวัณ โทร 1669 กด 2 และเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าสู่ระบบการรักษาได้สะดวกมากขึ้น กทม. ได้เพิ่มช่องทางในการประสานผ่านสายด่วนศูนย์ EOC ทั้ง 50 เขต
ในส่วนระบบการรักษาผู้ป่วย กทม. ก็มีความพร้อมรองรับการรักษาทั้งในโรงพยาบาล ศูนย์พักคอย (Community Isolation) Hospitel และ Home Isolation และหากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรงมากขึ้น กทม. ก็พร้อมเพิ่มศักยภาพระบบการรักษาให้สามารถดูแลผู้ป่วยได้โดยเร็ว