ฝ่ายค้านระบุเปิดประเด็นเศรษฐกิจปากท้อง วิปรัฐบาลมั่นใจแต่วาทกรรม

วันนี้ (17 ก.พ.2565) เวลาประมาณ 08.00 น. นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุถึงความพร้อมในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ มาตรา 152 วันแรกว่า วันนี้ฝ่ายค้านเตรียมตัวมาพร้อมทุกพรรค โดยจะเริ่มการอภิปรายที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้าน เป็นผู้เปิดญัตติ ต่อด้วยหัวหน้าพรรคทุกพรรคที่จะอภิปรายต่อเนื่องกันไป

เปิดประเด็นเศรษฐกิจปากท้อง-โควิด-โรคระบาด

หลังจากนั้นจะเริ่มอภิปรายในประเด็นเศรษฐกิจปากท้อง ตามด้วยเรื่องสถานการณ์โควิด และการแพร่ระบาดในคน-สัตว์ ซึ่งวันนี้จะเน้นในเรื่องเศรษฐกิจปากท้องเป็นหลัก และวันพรุ่งนี้ (18 ก.พ.) จะเน้นในเรื่องปฏิรูปประเทศ-ปฏิรูปการเมืองและปัญหาการทุจริต ซึ้งการอภิปรายในวันนี้จะจบในเวลาหลังเที่ยงคืน เช่นเดียวกับวันพรุ่งนี้

ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวต่อว่า สำหรับไฮไลท์ในการอภิปรายวันแรก อยู่ที่หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่จะอภิปรายในภาพรวม แต่ละคนจะมีประเด็นที่สำคัญ และในวันพรุ่งนี้จะเป็นกลุ่มหัวหมู่ทะลวงฟันของฝ่ายค้าน ที่จะทยอยกันอภิปราย ซึ่งฝ่ายค้านจะใช้เวลา 11 ชั่วโมงเต็มทั้ง 2 วัน

บริหารประเทศเหลว อย่าอ้างปัจจัยภายนอก

คาดหวังว่า การอภิปรายในวันนี้จะทำให้ประชาชนได้เห็นว่า ปัญหาที่ประเทศประสบอยู่ในขณะนี้ และทำให้ประชาชนต้องอยู่ในภาวะลำบาก เกิดจากความอ่อนแอและความไม่มีประสิทธิภาพในการบริหาร ไม่ใช่เกิดจากปัจจัยโลกและปัจจัยภายนอก เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจว่า ยังจะให้เวลากับรัฐบาลอีกหรือไม่ในช่วง 1 ปีที่เหลือของรัฐบาล

นายสุทินกล่าวต่อว่า เชื่อว่าเมื่อฝ่ายค้านได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาแล้ว ก็จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มเห็นผลบ้างแล้ว เช่น เรื่องมาตรการน้ำมัน การดูแลชดเชยเกษตรกรในรายการต่างๆ ซึ่งการอภิปรายครั้งนี้จะเกิดผลดีกับประชาชนในหลายระดับ พร้อมมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาสภาล่ม เพราะไม่มีเหตุผลที่จะเกิด

วิปรัฐบาลเย้ยเปิดแผลมา 3 ปี ไม่เห็นมีอะไร

ทางด้าน นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส. นครสวรรค์ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้เป็นการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ซึ่งเป็นการซักถามและชี้แนะต่อรัฐบาล ให้รัฐมนตรีเป็นผู้ชี้แจงในฐานะผู้บริหารราชการแผ่นดิน นับว่าใช้โอกาสนี้เป็นการชี้แจงผลงานรัฐบาล

การติดตามการอภิปรายของฝ่ายค้าน ให้ความสนใจไปที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.ก้าวไกล และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.พรรคประชาชาติ ซึ่งจากการติดตามการอภิปรายของทั้งคู่ นับว่ามีเนื้อหาสาระที่น่าสนใจ

ส่วนที่พรรคการเมืองฝ่ายค้านบอกว่าการอภิปรายทั้งนี้จะเป็นการเปิดแผลรัฐบาลแล้วจะไปตอกย้ำในการอภิปรายไม่ไว้วางใจสมัยประชุมหน้านั้น นายนิโรธกล่าวว่า ฝ่ายค้านเปิดมา 3 ปีแล้ว เชื่อว่าไม่มีอะไร เป็นเพียงวาทกรรมทางการเมืองมากกว่า มั่นใจไม่มีประเด็นไหนน่ากังวล เชื่อว่ารัฐบาลสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น แต่ว่าฝ่ายค้านอาจจะใช้วาทกรรมโวหารในการอภิปราย โจมตีกันไปเรื่อยเหมือนกันอภิปรายไม่ไว้วางใจ และอ้างว่าจำเป็นต้องอารัมภบท

ยันไม่ได้ตั้งองครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรี

พรรครวมรัฐบาลไม่มีการตั้งทีมองครักษ์พิทักษ์คณะรัฐมนตรี แต่เป็นสิทธิ์ที่จะอภิปรายซักถาม และชี้แนะรัฐบาลได้ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐมี ส.ส.ฝ่ายวิชาการ ที่ติดตามประเด็นการบริหารงานของรัฐบาล หากมีโอกาสก็จะซักถามและให้คำแนะนำต่อรัฐบาล

นายนิโรธกล่าวต่อว่า ส่วนทีมกฎหมายของพรรค เป็น ส.ส.ที่ทำหน้าที่คุมเกมการอภิปรายของฝ่ายค้านให้อยู่ในกรอบข้อบังคับการประชุม และญัตติอภิปราย หากออกนอกกรอบทีมกฎหมายก็จะทักท้วง