ก้าวไกล จี้ปมไม่ชง ครม.จ่ายค่า VO รถไฟสีแดง-ถูกฟ้อง 7.2 พันล้าน

การเมือง
18 ก.พ. 65
23:51
2,981
Logo Thai PBS
ก้าวไกล จี้ปมไม่ชง ครม.จ่ายค่า VO รถไฟสีแดง-ถูกฟ้อง 7.2 พันล้าน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ก้าวไกล จี้ถามผ่านมา 2 ปี รมว.คมนาคม ไม่นำเรื่องค่าก่อสร้างเพิ่มรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้า ครม. ใช้สถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนก่อนเคลียร์เงิน จนถูกฟ้องเรียก 7,200 ล้านบาท ชี้การรถไฟแพ้คดีทุกฝ่ายจะรอด ยกเว้นประเทศชาติ-ประชาชน

วันนี้ (18 ก.พ.2565) ในการอภิปรายทั่วไป เวลา 22.35 น. นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายประเด็นรถไฟชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ก่อสร้าง 14 ปี มูลค่า 104,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 สัญญา โดยจะเจาะไปที่สัญญาที่ 1 เป็นการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ และศูนย์ซ่อมบำรุง

ในปี 2556 ได้ผู้รับเหมาก่อสร้างที่ชนะการประมูลด้วยราคา 29,800 ล้านบาท ซึ่งแพงกว่าราคากลาง ต่อมามีการขยายกรอบวงเงินเป็น 34,118 ล้านบาท และขยายเวลาก่อสร้างอีก 1,200 วัน โดยผู้รับเหมาที่ได้สัญญา คือ กิจการร่วมค้า SU (ซิโน-ไทย และยูนิค) เมื่อพูดถึงซิโน-ไทย หลายคนจะนึกถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สธ. แต่ขณะนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับซิโน-ไทย ยกเว้นลูกชายและลูกสาวที่ถือหุ้นใหญ่

รถไฟสายสีแดงเมื่อช่วงต้นปี 2562 การรถไฟได้ขอขยายวงเงินเพิ่มอีก 4,500 ล้านบาท เป็น 38,618 ล้านบาท โดยใช้จ่ายในส่วนงานเพิ่มกว่า 200 รายการจากกรอบวงเงินเดิม เช่น สร้างรั้ว-ทางเชื่อมเพิ่ม แต่จนถึงขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังอยู่ที่ ก.คมนาคม ไม่นำเข้า ครม. แต่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กลับตั้งคณะกรรมการหลายชุดมาตรวจสอบอำนาจการสั่งงาน อำนาจวิศวกร การจัดหาแหล่งเงินเพิ่ม แต่เมื่อไม่นำเข้า ครม.ก็ไม่ได้เงินไปจ่ายผู้รับเหมา ส่วนตัวเข้าใจว่าอาจไม่ต้องการเดือดร้อน เพราะงบฯ สูง

 

ส่วนผู้รับเหมานั้น สัญญาเดิม 34,118 ล้านบาท เบิกจ่าย 85 งวด เฉลี่ยงวดละ 400 ล้านบาท แต่กรณีงานเพิ่ม (Variation Order: VO) 200 รายการ ลงทุน 4,500 ล้านบาท เสร็จแล้วค่อยเบิกทีเดียว ตั้งคำถามว่าบริษัทที่สายป่านยาวก็ยังไม่ทำ เพราะต้องสร้างไปเบิกไป จะได้ประหยัดดอกเบี้ย อีกทั้งมีการพูดว่างานเพิ่มจะทำให้วิศวกรรวย เพราะตกลงใต้โต๊ะ ที่สำคัญไม่ต้องประมูลแข่งกับใคร อยู่เฉย ๆ ได้งาน

นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า เมื่อเป็นหัวเรือแล้ว ความรับผิดชอบอยู่ที่ รมว.คมนาคม โดยตรง ที่ต้องกำกับดูแลและบริหารสัญญาให้ปิดจ๊อบนี้ได้ หากยังนิ่งอยู่ก็ไม่มีทางทำอะไรได้ พร้อมเสนอให้นำกรรมการออกเพื่อเดินหน้า

ตั้งคำถาม 2 ปี ไม่เข้า ครม.เบิกเงินจ่ายผู้รับเหมา

นายจิรัฏฐ์ ถามไปยัง รมว.คมนาคม ว่า 2 ปี เหตุใดยังไม่กล้านำเรื่องเข้า ครม.ไปเบิกเงินมาจ่ายผู้รับเหมา 4,500 ล้านบาท มีปัญหาที่นายช่าง ผู้รับเหมา หรือทั้งคู่ หากไม่มีปัญญาก็แสดงว่าตัว รมว.มีปัญหา และหากบอกว่าปัญหาเกิดก่อนเข้าดำรงตำแหน่ง ขอให้พูดคุยกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีต รมว.คมนาคม และออกมาชี้แจงกับสังคม

ท่ามกลางสถานการณ์ รมว.กลัวพลาด ผู้รับเหมากลัวไม่ได้เงิน การรถไฟกลัวโปะแตก ครม.ในฐานะเซ็นอนุมัติก็กลัวไม่ชอบมาพากล จะซวยไปด้วย แล้วจะปล่อยไปอย่างนี้หรือ หาก รมว.คมนาคม ไม่กล้า หรือไม่มุ่งมั่นเอาผิดคนที่ทำผิดก็แก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้

นายจิรัฏฐ์ ยังตั้งคำถามกรณีตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ ทั้งที่ รมว.คมนาคม เคยให้สัมภาษณ์ว่าการใช้สถานที่ก่อนจ่ายเงิน เสี่ยงถูกเอกชนฟ้อง จากนั้นกิจการร่วมค้า SU ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการรถไฟ 7,200 ล้านบาท เป็นค่างานเพิ่ม งานค้างจ่าย และดอกเบี้ย โดยมีข้อความคำฟ้อง "การรถไฟฯ ในฐานะจำเลย ใช้ประโยชน์จากงานที่โจทย์ทำ โดยนำสถานีกลางบางซื่อไปทำเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ" นายจิรัฏฐ์ ยังตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงใช้จุดฉีดดังกล่าว เพราะคดีนี้การรถไฟฯ น่าจะแพ้คดี แต่เชื่อว่าอาจจะโล่งอกที่แพ้คดี มีเงินจ่าย และรอดกันหมด เพราะการรถไฟรอด มีเงินจ่ายไม่ต้องนำเรื่องเข้า ครม., รมว.รอด ไม่ต้องยุ่งกับเรื่องเสี่ยง, ผู้รับเหมาก็รอด เบิกเงินได้ ได้ออกเบี้ย แต่ที่แพ้คือประเทศชาติและประชาชนที่ต้องรับภาระดอกเบี้ยและเงินที่ถูกฟ้อง พร้อมฝากคำถามถึง รมว.คมนาคม ว่ามีแผนจะสู้คดีอย่างไร หรือต่อรองอย่างไร รวมทั้งฝากคำถามถึง รมว.สธ. ว่าจะนำเงิน สธ.มาช่วยจ่ายค่าฟ้องร้องหรือไม่

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง