กมธ.ตปท.ระบุแซงชั่นไม่ช่วยยุติสงคราม-แนะไทยหารืออาเซียนเร่งด่วน

ต่างประเทศ
27 ก.พ. 65
17:05
351
Logo Thai PBS
กมธ.ตปท.ระบุแซงชั่นไม่ช่วยยุติสงคราม-แนะไทยหารืออาเซียนเร่งด่วน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
รองประธาน กมธ.ต่างประเทศ ระบุมาตรการแซงชั่นไม่ช่วยให้สงครามยุติลง แต่ทุกฝ่ายควรถอยคนละก้าว เพื่อหาทางออก พร้อมแนะกระทรวงการต่างประเทศหารือกับอาเซียน เพื่อแสดงท่าที และข้อเสนอที่ทำให้สงครามยุติโดยเร็วที่สุด

วันนี้ (27 ก.พ.2565) นายเกียรติ สิทธีอมร รองประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ (กมธ.ต่างประเทศ) สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ในยูเครนในปัจจุบันนั้น ท่าทีของ กมธ.ต่างประเทศ คือคนไทยต้องปลอดภัย ซึ่งรัฐบาลไทยมีการมาตรการรองรับไว้ 3-4 แนวทาง ทำให้มีความสบายใจพอสมควร ส่วนท่าทีของประเทศไทยต่อประชาคมโลกที่สะท้อนให้เห็นว่าเพียงพอหรือไม่นั้น คิดว่าในปัจจุบันรัฐบาลไทยระมัดระวังมาก ซึ่งเข้าใจได้ เพราะประเทศไทยอยู่ห่างจากปัญหานั้นพอสมควร

อย่างไรก็ตาม อยากให้ประเทศไทยร่วมมือกับอาเซียนหารือถึงจุดยืนเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ เพราะประเทศไทยเพียงประเทศเดียวไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศควรไปหารือกับอาเซียนว่าท่าทีของอาเซียนควรจะเป็นอย่างไร และมีข้อเสนออะไรที่จะเป็นประโยชน์ ทำให้สงครามยุติโดยเร็วที่สุด และชาวยูเครนเดือดร้อนน้อยที่สุด และเข้าสู่โต๊ะเจรจาแบบสันติวิธีให้เร็วที่สุด

กมธ.แสดงจุดยืน เน้นใช้สันติวิธี

สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มองว่าการที่ประเทศใดประเทศหนึ่งใช้กำลังรุกราน คือไม่ได้อยู่แล้ว ซึ่งทาง กมธ.ต่างประเทศ เน้นใช้สันติวิธี แต่มองว่าการที่ยูเครนจะเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) เป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหวสูง ทำให้เหตุการณ์บานปลาย

ขณะที่หลายประเทศที่เคยรับปากว่าจะช่วยเหลือ กลับพูดเพียงจะใช้มาตรการแซงชั่น ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีผลทันทีในการยุติสงครามได้ เป็นมาตรการที่ได้ผลในระยะกลาง และยาว ซึ่งส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยกับมาตรการแซงชั่น เพราะจะกระทบประชาชนที่ยากจนที่สุดในประเทศ การค้า และการลงทุนกระทบแค่คนตัวเล็กที่สุด คนก่อการไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย ซึ่งต้องมีความระมัดระวังในการคิดและทำอะไร

ส่วนการยุติความรุนแรง มีทางออก แต่ไม่ใช่การให้ชาวยูเครนเลือกจะไปอยู่ฝ่ายตะวันตก หรือรัสเซีย ถ้าให้เลือกอย่างไรก็ไม่จบ ยกตัวอย่างกรณีฟินแลนด์ หากอยู่ในสถานะรัฐกันชน หากจะไปฝักใฝ่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด อย่างไรก็มีปัญหา ซึ่งถือเป็นต้นตอของปัญหา ทำไมทั่วโลกไม่บอกให้ถอยก่อน หลังจากเห็นแสนยานุภาพของรัสเซีย แต่ถ้าให้เลือกทางใดทางหนึ่งอย่างไรก็ไม่จบ และที่เดือดร้อนคือชาวยูเครน จะต้องคำนึงถึงชาวยูเครนให้มากที่สุด

มอง "รัสเซีย" เตรียมพร้อมรับมือ

ส่วนการที่สหรัฐฯ และอีกหลายประเทศ ยกระดับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียด้วยการระงับธนาคารรัสเซียจำนวนหนึ่ง ในการเข้าถึง สวิฟต์ หรือระบบการเงินโลกนั้น นายเกียรติ กล่าวว่า ในอดีต มาตรการแซงชั่นเคยได้ผล อย่างอิหร่าน ซึ่งมีการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ และมีการใช้มาตรการ "สวิฟต์" คือไม่ให้โอนเงินที่เป็นรายได้จากน้ำมัน ทำให้ไม่สามารถขายน้ำมันที่เป็นรายได้หลัก กับประเทศไหนเลย ขณะที่รัสเซียมีรายได้จากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ 40% จากรายได้ทั้งหมด หากเทียบกับอิหร่านที่มีรายได้จากน้ำมัน 30% ถือว่าสูงมาก แต่มาตรการแซงชั่นไม่ได้เป็นคำตอบทำให้รัสเซียถอย

ในปัจจุบัน รัสเซียเก็บเงินที่ได้จากการค้า เป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ สูงมาก และอยู่ในรูปของเงินสำรองของประเทศ ซึ่งรัสเซียมีการประเมินไว้แล้ว และเตรียมพร้อมอยู่พอสมควร ขณะที่ชาติตะวันตกไม่ได้เตรียมพร้อมกับสถานการณ์ อย่างที่รัสเซียเตรียมตัว แต่ไม่ได้บอกว่าถูกหรือผิด

มอง "แซงชั่น" กระทบชาวรัสเซีย

นายเกียรติ กล่าวว่า คิดว่ามาตรการแซงชั่นกระทบชาวรัสเซีย เพราะไปกระทบรายได้ ทำให้รายได้ของรัสเซียที่นำไปใช้ในสวัสดิการต่างๆ ระยะสั้นไม่กระทบ แต่ระยะกลางถึงยาว ขึ้นอยู่กับการลากยาวแค่ไหน ที่น่ากังวลคือรัสเซียจะไปพึ่งตรงนี้ และไปหาช่องทางอื่น อย่างธนาคารรัสเซียที่อยู่นอกประเทศ และเป็นแหล่งใช้ในธุรกรรมการเงิน ซึ่งอยู่ที่ไซปรัสมากที่สุด และรัสเซียมีกลไกอยู่นอกประเทศอยู่พอสมควร และสามารถพึ่งพาระบบที่ตัวเองสร้างขึ้นมาได้ เชื่อว่ายังมีช่องทางพอสมควร

สำหรับมาตรการแซงชั่น แม้ว่ากระทบ แต่ไม่มากอย่างที่คิด ส่วนผลกระทบด้านความมั่นคงของรัสเซีย คือการที่ยูเครนจะไปร่วมเป็นสมาชิกนาโต้ ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหา ถ้าทุกฝ่ายยอมคะยั้นคะยอแต่ในปัจจุบันกลับหลบหมด หรือไม่สามารถช่วยเหลือยูเครนได้มากกว่านี้ ถ้าทุกฝ่ายยอมถอยกันนิดนึงก่อน ว่าจะไม่มีการเข้าไปร่วมกับนาโต้ จนกว่าชาวยูเครนจะได้มีโอกาสหารือกัน เพราะอาจจะหมายถึงการเปลี่ยนรัฐบาลด้วยซ้ำ เพราะรัฐบาลปัจจุบันแข็งกร้าวมากที่จะไปร่วมกับตะวันตก ซึ่งถามว่าเป็นประโยชน์ของประชาชนหรือไม่ และแนวทางของรัฐบาลยูเครน อาจจะไม่สะท้อนความต้องการของประชาชน

ทั้งนี้ มีหลายรัฐมากที่อยู่ในยูเครน ซึ่งประชาชนเคยเป็นชาวรัสเซียมาก่อน หรือใกล้ชิดกับรัสเซีย แต่ขณะเดียวกัน ทางรัสเซียเอง ในส่วนของกองทัพ ทหาร และกองกำลังของรัสเซียไม่ใช่ไม่มีปัญหาในการออกมารบกับยูเครน ซึ่งทหารบางคนได้ระบุว่าไม่เคยคิดว่าจะมาโจมตียูเครน

รัฐบาลรัสเซียควบคุมธุรกิจพลังงาน

ส่วนมาตรการแซงชั่นส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจหรือไม่ นายเกียรติ กล่าวว่า เราเข้าใจบริบทนักธุรกิจรัสเซียจะเหมือนนักธุรกิจในไทยไม่ได้ ซึ่งเกือบ 100% เป็นพลังงานด้านก๊าซธรรมชาติ และน้ำมัน ควบคุมโดยบริษัทชื่อว่า แก๊ซปรอม ซึ่งเป็นบริษัทในอาณัติของรัฐบาลรัสเซียอยู่แล้ว และแก๊ซปรอมเกิดจากผู้ที่อยู่ใกล้ชิด วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียอยู่แล้ว และเป็นผู้สนับสนุนของ ปูติน ด้วยซ้ำไป ซึ่งประเมินอยู่แล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างไร เพียงแต่ว่าเขาเตรียมพร้อม มาตรการแซงชั่นไม่มีผลให้ยุติสงคราม และไม่มีน้ำหนักสูงพอ

ส่วนที่จะสามารถยุติสงครามได้ คือท่าทีที่ทุกฝ่ายจะต้องสงบลงก่อน และชัดเจนมากๆ ว่าการที่จะเดินเข้าไปนาโต้ สร้างปัญหาและความกังวลให้กับรัสเซีย พร้อมจะทบทวนหรือไม่ แต่ตนเองไม่อาจจะบอกว่าตัวเองรู้การเมืองในยูเครน เพียงแต่เท่าที่ฟังจากทุกฝ่าย จนถึงวินาทีนี้ อันนี้คือปัญหา ขณะที่หลายประเทศที่อยู่ติดชายแดนรัสเซีย การเป็นสมาชิกนาโต้เมื่อไหร่ คงจะมีปัญหาประมาณเดียวกัน

ไม่เชื่อรัฐบาลยูเครนชี้แจงข้อเท็จจริง

สำหรับกรณีที่รัฐบาลยูเครนได้รับคะแนนจากประชาชนสูงถึง 73% และอิงตะวันตก และชาวยูเครนส่วนใหญ่ไม่อยากอยู่กับรัสเซียนั้น นายเกียรติ กล่าวว่า มองว่าเป็นเรื่องภายในของยูเครน และไม่ทราบว่าบริบทใดที่เขาไปหารือกับประชาชน ซึ่งไม่เชื่อว่ารัฐบาลยูเครนจะชี้แจงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงที่รัสเซียจะมีความรู้สึกต่อต้านเด็ดขาด ไม่ใช่แค่ถามว่าเอามั้ย คือการที่จะเป็นประเทศ และมีสิทธิที่จะปกครองตัวเองในระบอบประชาธิปไตย ตนสนับสนุน 100%

แต่ปัญหาคือการเป็นประเทศที่ตรงนั้นที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สร้างความอ่อนไหวให้ประเทศเพื่อนบ้าน ตรงนี้ถ้าไม่บอกให้ประชาชนทราบ เขาก็ไม่มีทางทราบ หรือาจจะมีน้อยคนที่ไม่ทราบว่าส่งผลขนาดนี้ ส่วนปูติน มองว่าไม่ต้องการให้ประเทศบริวาร หรือประเทศใกล้ชายแดนรัสเซีย เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของนาโต้ เพราะจะทำให้ตะวันตก สามารถเข้าไปตั้งฐานทัพ หรือกองกำลังได้ ที่อยู่ใกล้หรือประชิดรัสเซีย เป็นภัยต่อรัสเซียอย่างเห็นได้ชัด

รัสเซียหวั่นผลกระทบด้านความมั่นคง

นายเกียรติ กล่าวว่า การเป็นสมาชิกนาโต้ จะเป็นการเปิดประตูบ้านว่าสามารถตั้งฐานทัพได้ นี่คือสิ่งที่ส่วนใหญ่ไม่คุยกันให้ชัด และประชาชน แม้กระทั่งผู้บริโภคข่าวสารก็ไม่ทราบในประเด็นนี้ นึกว่าการเป็นสมาชิกนาโต้เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ใช่ มันหนักกว่านั้น เขารู้ดีว่าส่งผลกระทบด้านความมั่นคงอย่างร้ายแรงต่อรัสเซีย การยิงจรวดปรมาณูจากยูเครน สามารถถึงกรุงมอสโกวภายในไม่กี่นาที แต่หากยิงจากโลกตะวันตก หรือเรือดำน้ำ และเรือรบ สามารถสกัดได้ทัน ตรงนี้บอกว่าหยุดอ่อนไหวก็พูดได้ แต่ในโลกความเป็นจริงแล้ว คิดว่ารัสเซียต้องกังวล ส่วนท่าทีของรัฐบาลยูเครน ต้องระมัดระวังว่ากำลังชักจูงใคร และสิ่งที่ไปชักจูงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองหรือประโยชน์ของประชาชน เอาให้ชัด

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"รัสเซีย" ขัดแย้งกับ "ยูเครน" เพราะอะไร

"ยูเครน" อ้างรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีพื้นที่หลายจุด

สหรัฐฯ - ฝรั่งเศสส่งกำลังใจให้ชาวยูเครน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง