อะไรบ้าง? 5 ข้อกังวล "แพทย์ชนบท" หลังสธ.ปรับรักษาโควิด OPD

สังคม
1 มี.ค. 65
09:59
2,129
Logo Thai PBS
อะไรบ้าง?  5 ข้อกังวล "แพทย์ชนบท" หลังสธ.ปรับรักษาโควิด OPD
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ชมรมแพทย์ชนบท ออก 5 ข้อกังวล หลังกระทรวงสาธารณสุข เริ่มวันแรก (1 มี.ค.) ให้รักษาผู้ป่วยโควิดที่มีอาการเพียงเล็กน้อยแบบผู้ป่วยนอก "เจอ-แจก-จบ" รับยาตามระดับอาการ ห่วงหย่อนมาตรการควบคุม โรงพยาบาลไม่สามารถขอรับค่าใช้จ่ายจากงบกลาง ได้แค่งบรายหัว

วันนี้ (1 มี.ค.2565) นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ได้โพสต์เฟซบุ๊ก นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ  เกี่ยวกับประเด็น "เจอ-แจก-จบ" ซึ่งเป็นวันแรกที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เริ่มดำเนินการรักษาผู้ป่วยโควิด ทั้งนี้ชมรมแพทย์ชนบท ระบุว่า ชุดความคิดหลักคือ การรักษาผู้ติดเชื้อโควิดที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย หมายถึงผู้ป่วยสีเขียวนั้น ให้โรงพยาบาลต่างๆรักษาแบบ OPD case คือ เจอผู้ติดเชื้อ ให้จ่ายยา แล้วให้กลับบ้านไปกินยาดูแลตนเองและกักตนเอง (โดยไม่ต้องเข้าระบบ Home isolation) ที่มีเจ้าหน้าที่ดูแล

และในส่วนของการจ่ายยานั้นให้มียา 3 ระดับคือ ยาฟาวิพิราเวียร์ สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการมาก ยาฟ้าทะลายโจร สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย และยารักษาตามอาการเช่นยาไข้ ยาไอ ยาลดน้ำมูก สำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ

อ่านข่าวเพิ่ม เริ่มวันแรก 1 มี.ค. สปสช.แจก ATK เฟส 2 ผ่านแอปฯ เป๋าตัง

5 ข้อเสนอแนะของชมรมแพทย์ชนบท 

  • ชมรมแพทย์ชนบท เห็นด้วยกับปลัด สธ.สำหรับแนวคิดเรื่อง "เจอ-แจก-จบ" และ "การจ่ายยาเป็น 3 ระดับ" เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับการอยู่ร่วมกับโควิด ลดภาระของสถานบริการ ลดค่าใช้จ่ายภาครัฐที่ต้องใช้งบจากเงินกู้ รวมทั้งเป็นอีกแนวทางที่สอดรับการระบาดของเชื้อโอมิครอนที่ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง
  • ชมรมแพทย์ชนบท อยากจะให้ทางกระทรวงสาธารณสุขสื่อสารให้ชัดเจนว่า "แนวทาง เจอ-แจก-จบ" เป็นอีกแนวทางทางเลือกใหม่สำหรับการรักษาผู้ติดเชื้อโควิดแบบ OPD case แต่ต้องไม่ใช่แนวทางหลักหรือแนวทางเดียวของการดูแลผู้ป่วยโควิด เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดหรือการสื่อสารที่ขาดความชัดเจน เมื่อเป็นเช่นนี้จะทำให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโควิดของประเทศไทย จะประกอบด้วยการ admit เข้าโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม CI HI หรือรักษาแบบ OPD case (เจอ-แจก-จบ) ตามแต่ดุลยพินิจของแพทย์หรือวิชาชีพสุขภาพจะพิจารณา ให้สอดคล้องกับบริบททั้งของผู้ป่วย การระบาด และความเพียงพอของเตียงและกำลังคนในสถานพยาบาล

ห่วงเจอ-แจก-จบ หย่อนมาตรการควบคุม

  • ข้อน่าห่วงกังวลประการสำคัญของ แนวทาง "เจอ-แจก-จบ" คือ การหย่อนมาตรการการควบคุมโรค เพราะการอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับไปกักตัวเองและดูแลตนเอง 10 วัน เสมือนเป็นไข้หวัดทั่วไป อาจมีบางคนที่มีความจริงจังในการกักตัวน้อย หรือบางคนก็มีข้อจำกัดเรื่องที่พักที่คับแคบ ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคสูงขึ้น ดังนั้นในพื้นที่ที่ยังมีการระบาดน้อย อาจต้องใช้การกักตัวใน CI หรือ HI ที่มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขดูแล ซึ่งจะช่วยลดการระบาดได้มากกว่าการใช้แนวทาง "เจอ-แจก-จบ"
  • อุปสรรคสำคัญของแนวทาง "เจอ-แจก-จบ" คือ เมื่อแนวทางนี้เป็นการรักษาแบบ OPD case ทำให้โรงพยาบาลต่างๆไม่สามารถขอรับค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้ติดเชื้อโควิดจากงบการรักษาพยาบาลกองกลางของรัฐบาลได้ ต้องใช้งบจากเงินจัดสรรรายหัว ตามสิทธิหลักประกันสุขภาพของกองทุนผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลเอง การรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้ แม้ค่ายาจะไม่มาก แต่ค่าใช้จ่ายของชุด PPE รวมทั้งค่าจ้างค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ เป็นรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นมาจากระบบปกติ ดังนั้นทางกระทรวงสาธารณสุขควรหารือเรื่องดังกล่าวกับหน่วยงานต่างๆเพื่อกำหนดวิธีการเบิกค่าใช้จ่ายคืนให้กับทางโรงพยาบาลในลักษณะ Fee for Schedule ด้วย ไม่ควรผลักภาระให้กับโรงพยาบาลและ รพ.สต.
  • หาก สธ.ยืนยันว่า เราต้องอยู่กับโควิดให้ได้ (ซึ่งควรเป็นเช่นนั้น) ด้วยการประกาศให้โควิดเป็น endemic disease แทนการเป็นโรคระบาด สธ.ก็ต้องคุยกับนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีการยกเลิกการใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในการควบคุมโรคโควิดได้แล้ว เพราะหมดความจำเป็นแล้ว และถอดโรคโควิดจากการเป็นโรคติดต่ออันตราย จึงจะทำให้เกิดความสมเหตุสมผล มิเช่นนั้นก็จะเกิดความลักลั่นสับสนของทั้งในระดับหลักการและในระดับปฏิบัติ

"เจอ-แจก-จบ" คืออีกทางเลือกในการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด แต่ต้องไม่ตอกย้ำจนกลายเป็นทางหลักทางเดียว  

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

สธ.คาดโควิดยังสูงอีก 2-6 สัปดาห์ ก่อนทรงตัวและเริ่มลดลง

เริ่มวันนี้ รักษาโควิดแบบผู้ป่วยนอก กลุ่มที่ไม่มีอาการ ไม่มีความเสี่ยง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง