วิกฤตรัสเซีย-ยูเครนทำน้ำมันดิบราคาพุ่ง 107 ดอลลาร์สหรัฐ

เศรษฐกิจ
2 มี.ค. 65
11:15
553
Logo Thai PBS
วิกฤตรัสเซีย-ยูเครนทำน้ำมันดิบราคาพุ่ง 107 ดอลลาร์สหรัฐ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น 107 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินรัสเซียอ่อนค่าเหลือ 29 สตางค์ เมื่อเทียบกับเงินบาท นักวิเคราะห์ระบุหากการสู้รบยืดเยื้ออาจทำให้น้ำมันดิบพุ่งแตะระดับ 120-150 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาเรล

วันนี้ (2 มี.ค.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นบาร์เรลละ 107 ดอลลาร์สหรัฐ หลังวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนอาจยืดเยื้อ

นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย และที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า หากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อจะนำไปสู่ความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ กระทบการส่งออกเชื้อเพลิง ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นบาร์เรลละ 120-150 ดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ในประเทศวันนี้ (2 มี.ค.) อยู่ที่ลิตรละ 29.74 บาท ซึ่งมีมาตรการลดภาษีน้ำมันสรรพสามิตตรึงราคาไว้ ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกไม่เกินบาร์เรลละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนราคาน้ำมันชนิดอื่น เช่น แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 36.55 บาท และ E20 ลิตรละ 35.44 บาท

นโยบายการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ไม่สามารถชะลอการอ่อนค่าเงินรูเบิลของรัสเซีย ปรับตัวลดลงแบบ All time low ที่ 1 รูเบิ้ล ต่อ 0.008 ดอลลาห์สหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าทศนิยมจุดที่ 2 หรือคิดเป็นเงินบาท ที่รูเบิ้ลละ 0.29 บาท

ปัญหาที่เกิดขึ้นกระทบตลาดเงินโลก ซึ่งต้องโยกย้ายสินทรัพย์ โดยค่าเงินบาทวันนี้ (2 มี.ค.) อยู่ที่ระดับดอลลาร์สหรัฐละ 32.68 บาท ซึ่งอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์

ขณะที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เตรียมนัดประชุมหารือกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อไป ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ เตรียมหารือรับมือการนำเข้าและส่งออก รวมทั้งทิศทางราคาน้ำมันเช่นกัน

อ่านข่าวอื่นๆ

ผลเจรจา "รัสเซีย-ยูเครน" ยังไม่ได้ข้อสรุป เตรียมเจรจารอบ 2

รัสเซียยิงถล่มหอโทรทัศน์ยูเครนใจกลางกรุงเคียฟ เสียชีวิต 5 คน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง