วันนี้ (10 มี.ค.2565) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษก กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายลูกว่า ด้วยการเลือกตั้ง 2 ฉบับ แถลงผลการพิจารณาร่างกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งการพิจารณาในวันแรกยังไม่ได้ข้อสรุป หลังมีการถกแถลงเรื่องของคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมือง รวมถึงการเก็บค่าสมาชิกและค่าบำรุงพรรคการเมือง
กรรมาธิการมอบหมายให้นายนิกร จำนง เลขานุการคณะกรรมาธิการฯ พิจารณาศึกษาเปรียบเทียบในประเด็นดังกล่าวแล้วนำมาเสนอต่อ ที่ประชุมกรรมาธิการครั้งต่อไปว่า การแก้ไขข้อบัญญัติเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองที่จะต้องไม่ยุ่งยากแต่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่า ควรกำหนดอย่างไร ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 96 และ 98 กำหนดไว้
รวมถึงให้ศึกษากรณีการกำหนดค่าบำรุงพรรคการเมืองที่เรียกเก็บจากสมาชิก ซึ่งกรรมาธิการมีความเห็นต่างในเรื่องนี้ โดยกรรมาธิการส่วนหนึ่งเห็นว่า ไม่ควรกำหนดไว้ในกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง แค่ควรกำหนดในข้อบังคับพรรคแทน ขณะที่อีกส่วนหนึ่งเห็นว่าควรกำหนดไว้ในมาตรา 15 (15) ของกฎหมายพรรคการเมือง
และยังมีความเห็นของกรรมาธิการส่วนหนึ่งเห็นว่า อาจจะเรียกเก็บหรือไม่ก็ได้ อยู่ที่ดุลพินิจของแต่ละพรรคการเมือง โดยเดิมกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนดให้เก็บค่าสมาชิกรายปี 100 บาท 2 ปี และค่าบำรุงพรรคตลอดชีพ 2,000 บาท ซึ่งต่างก็เห็นว่าเป็นอัตราสูง เป็นอุปสรรการทำพรรคการเมือง ในการหาสมาชิกพรรค
ทั้งนี้ไม่มีการแก้ไขชื่อร่างพระราชบัญญัติที่ใช้ชื่อว่า "พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่..) พ.ศ....และการประกาศบังคับใช้ที่กำหนดให้บังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป