ก่อนหน้านี้สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ได้ชันสูตรร่าง น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ไปแล้ว และได้ประสานสถาบันนิติเวชหน่วยงานอื่น ซึ่งเป็นโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์อีก 2 แห่ง ช่วยตรวจพิสูจน์เนื้อเยื่อบาดแผลบนร่างกายของแตงโมคู่ขนานกัน
ล่าสุด มีรายงานว่า สถาบันนิติเวช ที่ตรวจเนื้อเยื่อ โดยใช้อุปกรณ์เฉพาะทางเทคนิคตรวจสภาพเนื้อเยื่อพบว่า สภาพเนื้อเยื่อจากบาดแผลที่ต้นขาขวาด้านใน มีเลือดออกที่ขอบแผล สภาพบาดแผลไม่ตัดกับเส้นเลือด จึงไม่ใช่เหตุที่ทำให้เสียชีวิต แต่การเสียชีวิตนั้น แพทย์ผู้ชันสูตรจะทราบดีว่าเกิดจากอะไร
ส่วนกรณีที่ญาติของแตงโม ต้องการให้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และสมาชิกวุฒิสภา ร่วมชันสูตรด้วยนั้น ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม ระบุว่า คงไม่สามารถทำได้ แต่สามารถเข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์ได้
ส่วนประเด็นที่มีความสงสัยและขอให้ตรวจสอบเพิ่มเติม จะแตกความสงสัยว่ามีประเด็นอะไรบ้าง เช่น บาดแผลเกิดจากใบพัดเรือหรือไม่ และความสงสัยเกี่ยวกับดวงตา แต่ปัญหาคือ หลักฐานบางอย่างสูญเสียสภาพเดิมไป ทำให้ยากต่อการชันสูตร เช่น ศพอาจเกิดความเน่าเปื่อย
ส่วนประเด็นที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ได้ตรวจพิสูจน์ไปแล้ว ตามหลักของพยาธิแพทย์บางอย่างต้องตรวจซ้ำ เช่น กระเพาะปัสสาวะ มีปัสสาวะหรือไม่ มีร่องรอยหรือบาดแผลอื่นไหม บางอย่างตรวจซ้ำ ๆ กัน เพื่อให้ได้หลักฐานตรงกัน แต่หากผลชันสูตรมีความต่างกัน หลักการขณะนี้ยังต้องใช้ผลชันสูตรของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้ ในวันนี้ (14 มี.ค.2565) สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ จะมีการแถลงผลผ่าพิสูจน์ศพของแตงโม ในเวลา 15.00 น.
"รณณรงค์" ชี้ ก.ยุติธรรมผ่าซ้ำผลอาจต่างกัน
ด้านนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ตอนนี้หลักฐานที่ตำรวจมีชี้ไปที่อุบัติเหตุ แต่เนื้อหาสาระคือ สภาพร่างกายของแตงโมที่นิติเวชของตำรวจยืนยันออกมาว่า ผลชันสูตรไม่พบบาดแผลช่วงบนแล้วใช้ความเห็นของคน ๆ เดียวมาปิดคดี
ทั้งนี้ การนำร่างของแตงโมไปผ่าซ้ำที่กระทรวงยุติธรรมอาจจะเห็นผลที่ต่างกันได้ เพราะในอดีตเคยเกิดขึ้นอยู่หลายคดี ที่พบมักเป็นกรณีเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐ
นายรณณรงค์ ยังตั้งข้อสังเกตว่า "นิติเวชที่ไหนก็ผ่าได้ แต่นิติเวชที่อยู่ในสังกัดของตำรวจ มีสายบังคับบัญชาจะมีความเป็นอิสระได้อย่างไร ถ้าผลผ่าใหม่ออกมาว่าช่วงบนได้รับบาดแผลจากการทุบตีไม่ใช่เน่าตามธรรมชาติ หลักฐานจะสอดคล้องไปกับกรณีที่จ๊อบต้องทิ้งขวดไวน์ลงแม่น้ำเจ้าพระยาทันที จะเปลี่ยนทิศทางคดี จากอุบัติเป็นฆาตกรรม"