"สื่อ" ในภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ต่างประเทศ
15 มี.ค. 65
21:53
1,089
Logo Thai PBS
"สื่อ" ในภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ท่ามกลางสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ขณะนี้ที่มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก รวมถึงหลายล้านคนต้องกลายป็นผู้ลี้ภัย ขณะที่สื่อที่ติดตามรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ รวมทั้งในรัสเซียก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน

กรณี "มารีนา ออฟเซียนนิโควา" บรรณาธิการและโปรดิวเซอร์ของ Channel One สื่อโทรทัศน์รัสเซียที่ได้รับความนิยมสูงสุด ปรากฎตัวพร้อมป้ายต่อต้านสงคราม ระหว่างออกอากาศรายการสดการรายงานข่าวความพยายามของรัสเซียในการลดผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งเธอต้องการส่งสารถึงผู้ชมให้ยุติสงคราม และอย่าหลงเชื่อคำโกหกจากโฆษณาชวนเชื่อ

แม้ว่าผู้ประกาศข่าวจะพยายามอ่านข่าวต่อ ก่อนที่จะตัดเข้าข่าวอื่นและคลิปดังกล่าวถูกลบทันที

ก่อนเข้าไปชูป้าย มารีนาได้เล่าเรื่องราวของเธอผ่านเทเลเกรม ว่า พ่อเป็นชาวยูเครน แม่ของเธอเป็นชาวรัสเซีย โดยย้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครนเป็นอาชญากรรม และรู้สึกเสียใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย

น่าเศร้าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่ฉันทำงานกับ Channel One ได้เผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของเครมลิน ฉันละอายใจมาก ละอายที่ปล่อยให้มีการโกหกผ่านทีวี ละอายที่ยอมให้คนรัสเซียถูกหลอก

"เรานิ่งเงียบเมื่อปี 2014 เมื่อทุกอย่างเกิดขึ้น เราไม่ได้ออกไปประท้วงเมื่อเครมลินวางยานาวัลนี เราได้แต่มองดูระบอบที่ไร้ความเป็นมนุษย์นี้

ตอนนี้ทั่วโลกหันหลังให้เรา จากนี้ต่อไปอีก 10 รุ่น ลูกหลานของเราจะไม่สามารถลบล้างความอับอายจากสงครามนี้ได้ ชาวรัสเซียฉลาดและมีความภูมิใจในตัวเอง มันขึ้นอยู่กับเราที่จะหยุดความบ้าระห่ำนี้ ออกมาประท้วง อย่ากลัว พวกเขาไม่สามารถเอาเราทั้งหมดเข้าคุก"

หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของรัสเซีย ระบุว่า มารินาถูกจับกุมและนำตัวไปที่สถานีตำรวจ ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ ทาสส์ สื่อทางการรัสเซีย ระบุว่า เธออาจจะถูกดำเนินคดีภายใต้กฎหมายใหม่ ว่าด้วยการเผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับกองทัพรัสเซีย ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี

ก่อนหน้านี้ สื่ออิสระของรัสเซียหลายสำนักต้องปิดตัวลง เพราะถูกกดดันอย่างหนัก กรณีการรายงานข่าวสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน แสดงความเห็นต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า ซาบซึ้งใจต่อชาวรัสเซียที่ไม่ยอมหยุดนำเสนอความจริง ต่อสู้กับการบิดเบือนข้อมูล บอกความจริงกับเพื่อนและคนที่รัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงที่เข้าไปในสตูดิโอของ Channel One พร้อมโปสเตอร์ต่อต้านสงคราม

อีกด้านในยูเครน การรายงานข่าวในภาวะสงครามอันตรายและยากลำบาก นักข่าวอย่างน้อย 2 คนเสียชีวิตแล้ว

ต้นเดือน มี.ค. เมื่อกองทัพรัสเซียยิงถล่มหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ในกรุงเคียฟ เยฟเฮนนิ ชาคุน ช่างภาพข่าวยูเครน เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต ต่อมาวันที่ 13 มี.ค. เบรนท์ เรโนด์ นักข่าวและผู้ผลิตภาพยนตร์ชาวสหรัฐฯ ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างไปรายงานข่าวในเมืองเอียร์ปิน

ฮวน อาเรดอนโด ช่างภาพข่าวชาวสหรัฐฯ ที่เดินทางไปพร้อมกับเบรนท์ เล่าให้ผู้สื่อข่าวอิตาลีฟังถึงสถานการณ์

เราข้ามสะพานแรกจากเอียร์ปินและกำลังจะไปบันทึกภาพกลุ่มผู้ลี้ภัยที่กำลังเดินทางออก เราขึ้นรถ มีคนเสนอที่จะพาเราข้ามไปอีกสะพาน เมื่อข้ามด่านตรวจ พวกเขาเริ่มยิงมาที่เรา คนขับพยายามกลับรถ พวกเขายิงต่อเนื่อง มีแค่เราสองคน เพื่อนผม เบรนท์ เรโนด์ เขาถูกยิงและถูกทิ้งไว้

ฮวนถูกยิงหลายจุดและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเคียฟ ขณะนั้นเขาเองไม่รู้ว่าเบรนท์เสียชีวิตแล้ว และไม่กี่ชั่วโมงหลังเหตุยิงรถนักข่าว นายกเทศมนตรีเมืองเอียร์ปิน แถลงขอไม่ให้นักข่าวเข้าไปในพื้นที่เมืองเอียร์ปินเป็นการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของทหารยูเครน

หลังการเสียชีวิตของเบรนท์ เรโนด์เพียง 1 วัน ก็มีนักข่าวอังกฤษที่ทำงานให้กับ Fox News ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะทำข่าวอยู่บริเวณภายนอกกรุงเคียฟ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความคืบหน้า ขณะที่วานนี้ (14 มี.ค.) มีรายงานกองทัพรัสเซียยิงถล่มเสาส่งสัญญานโทรทัศน์ในริฟเน ทางตะวันตกของยูเครน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 คน

อ่านข่าวอื่นๆ

สื่อมวลชนอเมริกันถูกยิงเสียชีวิตในสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ยูเครนประกาศเคอร์ฟิว "กรุงเคียฟ" 36 ชั่วโมง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง