วันนี้ (19 มี.ค.2565) The Active ไทยพีบีเอส ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดเวทีระดมสมอง "วิกฤตสยาม 3 น้ำ" ร่วมสะท้อนปัญหาน้ำท่วม-แล้งซ้ำซาก
ผศ.สิตางศุ์ พิลัยหล้า อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิเคราะห์ว่า ที่ผ่านมาทุกหน่วยงานมักจะปกป้อง กทม. โดยไม่ได้ดูภาพรวมของน้ำทั้งประเทศ ขณะที่ กทม.เอง ยังมีช่องโหว่ที่แก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ได้ เพราะขาดการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน เมื่อโลกเผชิญปัญหา สภาพอากาศแปรปรวนอย่างมาก ยิ่งจำเป็นต้องมีนโยบายมารองรับ แต่กลับไม่เห็นเลย
ขณะที่ นายพงษ์สวัสดิ์ อักษรสวาสดิ์ อุปนายกสมาคมอนุรักษ์ศิลปกรรมและสิ่งแวดล้อมด้านกฎหมาย ระบุว่า ไทยมีกฎหมายผังเมืองฉบับปี 2562 ที่กำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการระบายน้ำ พักน้ำ และป้องกันน้ำท่วมไว้ค่อนข้างชัดเจน พร้อมให้สิทธิ์รัฐเวนคืนที่ดิน แต่ที่ผ่านมายังขาดความเคร่งครัดในการบังคับใช้ ทำให้การก่อสร้างทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาต และการจัดสรรพื้นที่ของเอกชนล่วงล้ำพื้นที่ป้องกันภัยพิบัติสาธารณะ
ในวงเสวนายังมีผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำอีกหลายคน ที่ให้ความเห็นตรงกันว่า การแก้ปัญหาน้ำท่วม ไม่สามารถแก้ไขเฉพาะใน กทม. แต่ต้องมองจังหวัดข้างเคียง และบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ ให้เป็นไปตามกฎหมายผังเมืองอย่างจริงจรัง ซึ่งถือว่าเป็นโจทย์ใหญ่ที่ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. ต้องให้ความสำคัญกับนโยบายการรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป