วันนี้ (21 มี.ค.2565) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานเปิดสัมมนาว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ประจำเขตต่างๆ ทั้ง 50 เขตทั่วกรุงเทพมหานคร
นายจุรินทร์ ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่มีความมั่นใจที่สุด การส่งผู้สมัครไม่ใช่แค่ให้ครบทุกเขต แต่มั่นใจจะได้โอกาสจากประชาชน ซึ่งพรรคได้เตรียมคนที่ดีและมีศักยภาพที่ดีที่สุด มีทั้งผู้ที่มีประสบการณ์ คนทำงานเชิงลึก และเลือดใหม่เข้ามาเติมเต็มการทำงานให้สมบูรณ์แบบ ประกอบกับนโยบายก็คิดมาแล้วว่า ทำได้จริง ไม่ใช่เพ้อฝันบนอวกาศ ประชาชนสามารถฝากผีฝากไข้ ฝากอนาคตกับพรรคประชาธิปัตย์ได้
วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ เสียงตอบรับจากคนกทม.ดีขึ้นจากเมื่อ 3 ปีก่อน ทั้งการลงพื้นที่และผลโพลสำรวจจากสำนักต่างๆ เพราะได้พิสูจน์แล้ว จากความมุ่งมั่นทุ่มเทการทำงานในรัฐบาล และกทม. จนเห็นผลเป็นรูปธรรม จึงมั่นใจว่า จะได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง
ทั้งนี้สิ่งที่พรรคต้องทำหลังนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม . คือต้องบริหาร กทม. เป็นมินิไทยแลนด์ มี 3 นวัตกรรมคือ ครม. กรุงเทพฯ และ จัดให้มี กรอ. กทม. เพื่อเป็นเวทีมีส่วนร่วมให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมแก้ปัญหา กับผู้บริหารกทม. และบูรณาการ กทม.และปริมณฑล คือต้องเดินหน้าประสานการทำงานร่วมกับปริมณฑล
เพราะทุกอย่างตอนนี้มีความเชื่อมโยงกันหมด ทั้งเศรษฐกิจและคมนาคม พร้อมย้ำว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเลือกตั้ง สก.ต้องทำหน้าที่มากกว่าที่กฎหมายกำหนด ต้องเป็น สก.พลัส คือต้องทำหน้าที่แทน สข.ที่ถูกยกเลิกไปด้วย
ด้าน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มีความพร้อม 100 % ที่จะเดินหน้าสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มั่นใจว่า คะแนนนิยมที่พรรคมีอยู่เดิม จะกลับได้อย่างแน่นอน
นโยบายไม่ต้องมาก แต่ต้องชัดเจน เช่นนโยบาย ทำได้ไว้ ทำได้จริง เป็นนโยบายที่ชัดเจนที่สุด ยืนยัน พรรคจะไม่ทิ้งกัน จะเดินไปสู่ความสำเร็จพร้อมกัน
ด้านนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า ตั้งแต่เปิดตัวเจอแรงปะทะ และเกมการเมืองทุกรูปแบบ แต่หากคิดถึงแต่ตัวเอง คงไม่มายืนอยู่ตรงนี้ แต่ไม่ว่าจะเจอพายุหนักแค่ไหน จะไม่มีวันท้อแต่จะมุ่งมั่นมากขึ้น และมั่นใจว่าจะเปลี่ยนกรุงเทพได้แน่นอน
ผมไม่เป็นผู้ว่าฯ ที่นั่งติดโต๊ะทำงาน เพราะเดินมาแล้วทั้ง 50 เขต ทำให้เข้าใจทุกปัญหา แต่จะทำงานคนเดียวไม่ได้ ต้องมี สก.ที่รู้จักพื้นที่และประชาชนในพื้นที่ซึ่งจะทำให้แก้ปัญหาได้ตรงจุด
นายสุชัชวีร์กล่าวด้วยว่า ประชาธิปัตย์เป็นบ้านที่อบอุ่น เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ ตั้งเป้าเปลี่ยนกรุงเทพฯ เป็นต้นแบบของอาเซียน ระยะเวลาจากนี้อีก 2 เดือน พร้อมลงพื้นที่รับฟังปัญหา พัฒนานโยบาย