ตร.รวบเด็กเช็ดกระจก หลังข่มขู่ผู้ใช้รถแยกแคราย

อาชญากรรม
31 มี.ค. 65
14:48
833
Logo Thai PBS
ตร.รวบเด็กเช็ดกระจก หลังข่มขู่ผู้ใช้รถแยกแคราย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ตำรวจสภ.รัตนาธิเบศร์ บุกรวบเด็กเช็ดกระจกทำท่าใช้อาวุธข่มขู่ หลังไม่พอใจเช็ดกระจกรถที่แยกแคราย จ.นนทบุรี โดนแจ้งข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ตำรวจเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนอย่าลงจากรถ พร้อมย้ำจะกวดขันมากขึ้น

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปพร้อมระบุข้อความว่า เตือนภัยเด็กเช็ดกระจกแยกแคราย จ.นนทบุรี บังคับเช็ดกระจก แต่ไม่จ่ายเงินแล้วไม่พอใจ ทำท่าคล้ายจะใช้อาวุธข่มขู่  

วันนี้ (31 มี.ค.2565)พ.ต.ต.รวิพงศ์ เลิศพันธ์ สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พร้อมผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณแยกแคราย พบนายมาร์ค อายุ 29 ปี พ่อค้าขายพวงมาลัยผู้ก่อเหตุ ขณะกำลังขายพวงมาลัย จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเข้าจับกุมตัว ส่งพนักงานสอบสวนสภ. รัตนาธิเบศร์

โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่าก่อความเดือดร้อนรำคาญ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และข้อหาขู่เข็นทำร้ายเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ ตามมาตรา 392 จำคุกไม่เกิน 1 เดือนปรับไม่เกิน 10,000 บาท 

 

นายมาร์ค กล่าวว่า หลังจากเข้าไปเช็ดกระจกรถเสร็จ เจ้าของรถทำท่าทางไม่พอใจ หากบอกดีๆก็จะไม่เช็ดให้ แต่พอเช็ดไปแล้วกลับถูกว่ากลับ จากนั้นเมื่อรถก็จอดติดไฟแดง และลงมาเหมือนจะมาหาเรื่อง

ที่บอกว่าจะไปทำร้าย ยืนยันว่าไม่ได้ทำ ที่เห็นในคลิปคือเขาจอดรถติดไฟแดงไม่ยอมไปไหน 4-5 ไฟแดง จึงขี่รถตามท้าให้เขาตามมา เพราะตอนนั้นรถติดมาก ที่ผ่านมาขายพวงมาลัยมานานตั้งแต่เช้าจนเย็นไม่เคยมีปัญหากับใคร

ตำรวจเตือนผู้ใช้รถอย่าลงจากรถช่วงติดไฟแดง

ด้านนายณัฐพล ปิยะนันทกุล ผู้ที่โพสต์คลิป เล่าว่า ขับรถจากถนนนครอินทร์ มุ่งหน้าแคราย พอถึงแยกไฟแดง มีเด็กที่เดินมาเช็ดกระจกรถ แต่พยายามโบกมือว่าไม่ให้เช็ด แต่เขาได้เช็ดจนเสร็จ และเดินมาเคาะกระจก เพื่อที่จะขอเงิน ซึ่งตัวเองกำลังติดสายโทรศัพท์อยู่ กำลังหาเหรียญให้ แต่เหมือนหยิบช้า ทำให้เด็กเช็ดรถไม่พอใจด่าทอ และบีบฟองน้ำที่มีฟองมาแปะไว้ที่กระจกรถแล้วเดินหนีไป

พ.ต.ต.รวิพงศ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมางานจราจรไม่ได้นิ่งเฉย มีการตรวจตราอยู่เสมอ ยอมรับว่ามีการรับแจ้งอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ถึงขั้นขู่ทำร้าย จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนกันไป แต่เหตุการณ์ล่าสุดจะไม่มีการว่ากล่าวตักเตือนอีก เป็นการจับกุมดำเนินคดี อยากฝากผู้ใช้รถใช้ถนนว่าไม่ควรลงจากรถ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะลงพื้นที่กวดขันมากขึ้น 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง