หวังศึกแดงเดือด ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

กีฬา
31 มี.ค. 65
20:03
387
Logo Thai PBS
 หวังศึกแดงเดือด ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ศึกแดงเดือดระหว่างลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในประเทศไทยนอกจากจะเป็นแมตช์ประวัติศาสตร์ครั้งแรกในเอเชียแล้ว ฝ่ายจัดยังหวังเป็นอีเวนต์ช่วยกระตุ้น GDP และปรากฏการณ์นี้จะเป็นการส่งต่อ Soft Power อีกด้วย

วันนี้ (31 มี.ค.2565) บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด และพันธมิตร จัดงานเปิดตัว เดอะ แมตช์ แบงค็อก เซ็นจูรี คัพ 2022 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นจัดศึกแดงเดือดครั้งแรกของเอเชียในศตวรรษนี้

ฟิล บาบบ์ อดีตกองหลังของลิเวอร์พูล และแอนดี้ โคล ดาวยิงของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เดินทางมาเปิดใจพูดถึงการแข่งขันครั้งนี้ โดยยืนยันว่าแมตช์นี้จะไม่ต่างอะไรจากการแข่งขันในพรีเมียร์ลีกแน่นอน เพราะในฐานะที่เป็นคู่ปรับมายาวนาน ทุกคนจะเต็มที่ไม่เพียงแมตช์ปรีซีซั่นเท่านั้น

 

 

โดยทั้งฝ่ายจัดการแข่งขัน และอดีตนักเตะทั้ง 2 คน ยืนยันว่า ลิเวอร์พูล กับ แมนฯยู จะขนนักเตะชุดใหญ่มาแน่นอน แต่ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีการหมุนเวียนนักเตะหรือไม่ เมื่อถึงวันที่ 12 ก.ค.2565

ส่วนอนาคตในการต่อสัญญากับลิเวอร์พูลของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยังไม่มีความแน่นอน ขณะเดียวกัน ในช่วงเดือน พ.ค.นี้ ภรรยาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด มีกำหนดคลอดลูกพอดี 

 

 

นายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด เปิดเผยว่า ทั้ง 2 ทีมต้องการให้มีมาตรฐานระดับพรีเมียร์ลีก ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงหญ้าในราชมังคลากีฬาสถาน ด้วยการใช้หญ้าชนิดเดียวกับสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด

นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนระบบน้ำ และปรับปรุงห้องแต่งตัว ซึ่งใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท และแม้ว่าจะลงทุนระดับ 1,000 ล้านบาท แต่เชื่อมั่นว่าจะทำให้ไทยได้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมด้านเศรษฐกิจ

 

 

ด้านนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา หรือ ท็อป Group CEO ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บิทคัพ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ Bitkub ในฐานะผู้ร่วมจัดงาน กล่าวว่า แมตช์นี้จะกระตุ้น GDP แบบก้าวกระโดด และทำให้เกิด Soft Power

ขณะเดียวกัน ฝ่ายจัดการแข่งขันยังให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัย เนื่องจากมีนักฟุตบอลและทีมงานของสโมสรร่วมเดินทางมาอีกทีมละ 250 คน รวมถึงแขกวีไอพี นักลงทุน และสปอนเซอร์ของแต่ละสโมสรที่คาดว่าแต่ละทีมจะมีไม่ต่ำกว่า 500 คน

 

 

สำหรับดีลประวัติศาสตร์ครั้งนี้ มีที่มาจากนายวินิจ เป็นแฟนบอลหงส์แดง และริเริ่มขึ้นตั้งแต่ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2020 แต่ต้องชะลอแผนไปจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

จนกระทั่งความคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากนายจิรายุส ในฐานะแฟนบอลปีศาจแดง จึงเดินหน้าจนดึงทั้ง 2 ทีมมาสร้างประวัติศาสตร์ในประเทศไทยได้สำเร็จ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เตรียมปรับพื้นสนามราชมังคลากีฬาสถาน รับศึกฟุตบอลแดงเดือด 

จัด "บอลแดงเดือด" หวังไทยได้ภาพลักษณ์ด้านเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง