"วิโรจน์" ชี้แม้มีกลุ่มเห็นต่างการเมือง แต่ทุกคนหวังเห็น กทม.ดีขึ้น

วันนี้ (5 เม.ย.2565) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล​ ลงพื้นที่​เขตบางขุนเทียน​ กทม.หลังจากเดินจากพบปะประชาชนและเครือข่ายอนุรักษ์ชายฝั่ง เพื่อรับฟังปัญหา​น้ำทะเลกัดเซาะ​ชายฝั่ง​

นายวิโรจน์กล่าวว่า จะเข้าไปผลักดัน​การทำคันหิน​ป้องกันการกัดเซาะ​ชายฝั่งระยะทาง​ 4.7 กิโลเมตร ​วงเงิน​งบ 1,400 ล้านบาท​ ระยะเวลาโครงการ​ 30​ เดือน นั้น​ จะเข้าไปผลักดันไม่ให้ล่าช้า​และสร้างความกังวลให้กับชาวบ้านว่าจะเป็นโครงการ​ 7​ ชั่วโคตร​

จะคุมก่อสร้างให้เป็นไปตามสเป็ค ​​และมาตรฐานการชะลอความเร็วคลื่น​ ควบคู่กับการปลูกป่าชายเลน​และใช้ไม้ไผ่ชะลอคลื่น​ เพื่อช่วยลดการกัดเซาะพื้นที่บ้านเรือนของประชาชน​

 

นายวิโรจน์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ประชาชนมีการสะท้อนปัญหาความไม่ตรงไปตรงมาของการใช้งบประมาณ​ในพื้นที่ที่มีการทุจริต​เงินทอนโครงการต่าง ๆ ทำให้ไม่มีมาตรฐาน

​พร้อมยกตัวอย่างปัญหาประชาชนว่า​ ไม่ได้ถนนหรือสะพานตามที่ต้องการ ​เช่น ถนนที่กว้างขึ้นให้รถผ่านได้แต่มีทางจักรยาน​ขึ้นมาซึ่งไม่ได้ขวางทางจักรยาน​แต่ต้องการทางที่รถทั่วไป​สัญจร​ได้​ ทำให้ไม่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น​

พร้อมตั้งคำถามว่า จะปล่อยให้การใช้งบประมาณ​ 80,000 ล้านบาท​ 10​ ปี​ ก็ 8​00,000 ล้านบาท เป็นแบบนี้หรือ​เชื่อว่ากรุงเทพฯ สามารถพัฒนาได้มากกว่านี้ภายใต้งบประมาณดังกล่าว​

 

นายวิโรจน์ยังกล่าวถึง​จำนวนผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ที่มีมากถึง 31 คน​ ที่จะส่งผลต่อความนิยมที่จะได้รับเลือกตั้งว่า พรรคก้าวไกลและตนต้องแสดงจุดยืนนโยบาย​ที่ชัดเจน ​ทั้งการบริการและจัดสรรงบ โดยเฉพาะงบประมาณที่เคยนำไปหล่อเลี้ยง​กับผู้รับเหมา และไม่เคยถูกตัดงบ​ฯ

ต้องตัดงบฯ นำไปใช้โครงการที่เกิดประโยชน์​กับประชาชน​ และต้องตรากฎระเบียบที่เป็นธรรม เช่น ค่าธรรมเนียม​ในการจัดเก็บขยะ​หรือสิทธิ์​ประโยชน์​การจัดเก็บภาษีที่ดิน เชื่อว่า​หากกฎกติกา​ที่เป็นธรรม​ จะนำเมืองไปสู่ความเป็นธรรมได้​ ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจให้นายทุนหรือคนตัวใหญ่มาร่วมพัฒนาเมือง​

แสดงความ "จริงใจ" แม้มีกลุ่​มเห็นต่าง​ทางการเมือง

ขณะเดียวกัน ตามจุดยืนทางการเมืองของพรรคก้าวไกล กับการลงพื้นที่หาเสียง ที่ต้องเผชิญ​กับกลุ่มคนเห็นต่าง​ นายวิโรจน์กล่าวว่า จะต้องแสดงความจริงใจ​

ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนที่เห็นตรงกันหรือต่างกัน ทุกฝ่ายต่างต้องการเห็น​ กทม.​ ดีขึ้นและถูกพัฒนาอย่างตรงไปตรงมา​ และงบประมาณ ถูกใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ​

เชื่อว่าหากมีจุดยืนที่ชัดเจน ที่จะทำให้งบประมาณ​ทุกบาททุกสตางค์​ ตกถึงมือประชาชน​ ก็จะเป็นโอกาสที่ประชาชนจะพิจารณา​พวกเรา​

อย่างไรก็ตาม ยืนยันเดินหน้าหาเสียงทำงานอย่างเต็มที่แม้คะแนนความนิยมจะเป็นรองผู้สมัคร​บางคน​ ยึด 12 นโยบายสร้างเมืองที่เป็นธรรม 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“รสนา” เน้นหาเสียงผ่านออนไลน์แทนติดป้าย ระบุไม่อยากเพิ่มขยะ

“จิ๊บ ศศิกานต์” จับมือ “วินท์” เปิดนโยบาย “กรุงเทพฯ เมืองปลอดภัย”

ปิดรับสมัครผู้ว่าฯ กทม.ยอดรวม 31 คน - ส.ก. 382 คน

สนามชิง "ผู้ว่าฯ กทม." คึกคัก ผู้สมัครเดินสายเรียกคะแนน