"มนัญญา" ชง ปปง.-ดีเอสไอทำคดีทุจริตเงินสหกรณ์ กษ. 491 ล้าน

อาชญากรรม
6 เม.ย. 65
18:32
488
Logo Thai PBS
"มนัญญา" ชง ปปง.-ดีเอสไอทำคดีทุจริตเงินสหกรณ์ กษ. 491 ล้าน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มี 2 กรมกำกับดูแลสหกรณ์ทั่วประเทศ แต่กลับพบการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ของกระทรวงฯ ความเสียหายประมาณ 491 ล้านบาท อยู่ระหว่างประสานให้ ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินและดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ

วันนี้ (6 เม.ย.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารกระทรวง ผู้แทนสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งสมาชิกสหกรณ์ฯ ซึ่งเป็นผู้เสียหาย หารือความคืบหน้าการดำเนินการคดีทุจริตเงินฝากของสมาชิกสหกรณ์ ที่ถูกเบิกถอนไปโดยเจ้าของบัญชีไม่รู้ตัว 85 บัญชี มูลค่าความเสียหาย 491 ล้านบาท

กระทรวงเกษตรฯ ต้องขออำนาจนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ ปปง. ช่วยสืบค้นเส้นทางการเงิน อายัดทรัพย์สิน และดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ หาผู้กระทำผิดมาลงโทษ ก่อนหน้านี้ ตำรวจออกหมายจับผู้จัดการสหกรณ์และหัวหน้าฝ่ายการเงินของสหกรณ์ฯ ฐานลักทรัพย์นายจ้างไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้

 

ขณะเดียวกัน น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างกรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มาแก้ปัญหาและดูแลผลกระทบ และให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ตรวจสอบฐานะการเงินสหกรณ์ ปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบ เงื่อนไขของบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีที่ต้องมีส่วนรับผิดชอบ กรณีที่เกิดความเสียหาย มีการทุจริตเกิดขึ้น

ตอนนี้คุณทำความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของคุณเอง การถ่ายไปให้คนใกล้ชิดถือเป็นการยักยอก กฎหมายจะตามเส้นทางเงินไป การยักย้ายถ่ายเทเงินสด ถ้าคุณยังอยู่ในไทยก็สามารถตามได้ รวมถึงการซื้อรถที่ยังไม่มีการโอนก็สามารถเอามาได้ว่าคุณซื้อรถอะไร

รมช.กระทรวงเกษตรฯ ได้ยกตัวอย่างข้อมูลเส้นทางการเงิน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สมาชิกสหกรณ์ว่า ผู้เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ และเป็นบทเรียนให้คนที่คิดจะฉ้อโกงว่ากระบวนการยุติธรรมสามารถจัดการข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

การชี้แจงวันนี้ (6 เม.ย.) ผู้เสียหายบางคนให้ข้อมูลว่า ถูกลักลอบถอนเงินตั้งแต่ปี 2559 บางคนถูกถอนเงินไปกว่า 3 ล้านบาท ขณะที่ตัวแทนสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ รายงานว่า มีทุนเรือนหุ้น 1,574 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเงินเพื่อการลงทุน 650 ล้านบาท ซึ่งสามารถนำมาคืนให้กับผู้เสียหายได้ แต่สหกรณ์จะต้องมีแผนฟื้นฟูกิจการ รวมทั้งติดตามเงินที่ถูกทุจริตคืนมา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง