ถ้าย้อนกลับไป "เอ๋-ปารีณา" ก้าวออกมาจากเวทีนางงาม และเข้าการเมือง 17 ปีก็มีบทบาทในเวทีการเมืองไม่น้อย เอาเฉพาะยุครัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะองครักษ์พิทักษ์ “บิ๊กตู่” หรือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในสภาฯ ก็ไม่เคยไว้หน้าใคร
เรียกว่าเป็นคู่ปรับ-โต้เถียงกันมาตลอด ระหว่างทำหน้าที่กรรมาธิการ ป.ป.ช. เอ๋-ปารีณา ปะทะ พี่ตู่-พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ และบางกรณียังแพคร่วม กับ "คู่หู-สิระ เจนจาจะ" อดีตส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐอีกคน
ไฮไลน์สำคัญคือ คู่หู-คู่นี้ ร่วมกันทำหน้าที่ในกรรมาธิการฯ ป.ป.ช. ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ปี 2562 ท้วงติงทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่ พี่ตู่-เสรีพิศุทธ์ พยายามตั้งเรื่องสอบนายกฯ บิ๊กตู่ กรณีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเข้ารับหน้าที่
ช็อตเด็ด คือการลากเก้าอี้ไปนั่งคู่ พี่ตู่-เสรีพิศุทธ์ ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ เข้าทำนองประชดประชัน เพราะ 2 ที่ปรึกษา ซึ่งเป็นคนนอกยังนั่งได้
และในห้องประชุมกรรมาธิการฯ ป.ป.ช. "เอ๋-ปารีณา" กับคู่หู ยังเคยปะทะเดือดกับ เพนกวิน-พริษฐ์ ชีวารักษ์ แกนนำกลุ่มราษฎร ช่วงสอบเรื่องร้องเรียนกรณีการถูกทำร้ายระหว่างปล่อยตัวออกจากเรือนจำ จังหวะนั้น ก็ปั่นป่วนเอาการ
“หมายจับออกโดยศาล ใช่ครับแต่จับได้รอบเดียว ขอให้ท่านเข้าใจใหม่ เราอยู่ด้วยกฎหมายประมวล ไม่ใช่ ปอ.420”
ขณะที่ปารีณา กล่าวว่าให้ถามแล้วค่อยตอบ อย่ามาชี้ เพราะไม่ให้เกียรติ ที่นี่ไม่ใช่ม็อบ เป็นห้องประชุม กมธ.พร้อมกับชี้หน้ากลับ ขณะที่เพนกวิน ตอบทันว่าที่นี่ไม่เล้าไก่ ทำให้น.ส.ปารีณา ก็ตอบกลับว่า แต่ดิฉันเลี้ยงไก่ และก็ไม่ชอบหมูด้วย
ในห้องประชุมสภาฯ ก็ไม่เว้น เอ๋-ปารีณา ในฐานะ องค์รักษ์พิทักษ์ “นายกฯ บิ๊กตู่" โดยเฉพาะศึกซัก ฟอก รับบทนี้กับคู่หู-สิระ เจนจาคะ ผลัดกันรุก-ผลัดกันรับ ใครอภิปรายพาดพิง ก็ไม่เคยยอมให้อภิปรายได้ฝ่ายเดียว
นอกจากนี้ยังเคยมีวาทะเดือดกับรุ่นพี่นางงาม แต่บนเวทีการเมือง ด้วยเหตุต่างเรื่องกฎหมายทางเพศ "เอ๋-ปารีณา" เจอ "บุ๋ม-ปนัดดา" ก็เป็นภาพจำว่า ปีนเกรียวให้ร้าย สุดท้าย ปนัดดา วงษ์ผู้ดี เลิกตอแย ปิดท้ายให้ประชาชนพิจารณาดูพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเอง
ถ้าย้อนกลับไป เหตุของคำพิพากษา สืบเนื่องจาก เอ๋-ปารีณา ยื่น กรรมาธิการฯ ป.ป.ช. สอบเหตุนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ รุกที่ป่า กลายเป็นบูมเมอแรงย้อนเข้าตัว เพราะคู่กรณีก็ยื่น กรรมาธิการฯ ป.ป.ช. สอบรุกที่ป่า ทำฟาร์มไก่เช่นกัน
"เอ๋-ปารีณา" เป็น ส.ส.ราชบุรีสมัยแรก ในปี 2548 ในนามพรรคไทยรักไทย จากนั้นก็เข้าสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา และกลับเข้ามาเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ปี 2557 ก่อนผันตัวเองไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. พรรคพลังประชารัฐในปี 2562
โดยเป็นลูกสาวคนเดียวของนายทวี ไกรคุปต์ ในฐานะอดีตส.ส.ราชบุรี 7 สมัย ก่อนหน้านั้น "เอ๋-ปารีณา" ผ่านเวทีประกวดนางสาวไทยไทยปี 2544 ก่อนจะเข้าสู่สนามการเมือง และโลดแล่นบนถนนสายนี้ มาราว 17 ปี และอาจต้องปิดฉากตัวเองอย่างถาวร ตามคำพิพากษาของศาลฎีกา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด่วน! "ปารีณา" พ้น ส.ส.ทันที ตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิตคดีรุกป่า
ระทึก! เก้าอี้ส.ส.ศาลนัดตัดสินคดี "ปารีณา"รุกป่า 711 ไร่
เสียงหลังคำพิพากษา “ปารีณา” ขอทำใจ ไก่ไม่มีให้เลี้ยง-ตกงาน 100%