เภสัช จุฬาฯ พัฒนาน้ำกระสายยาฟาวิพิราเวียร์ รสหวานสำหรับเด็ก

Logo Thai PBS
เภสัช จุฬาฯ พัฒนาน้ำกระสายยาฟาวิพิราเวียร์ รสหวานสำหรับเด็ก
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ พัฒนาน้ำกระสายยาสำหรับการเตรียมยาน้ำแขวนตะกอนฟาวิพิราเวียรสำหรับผู้ป่วยเด็กเฉพาะราย ลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ในขั้นตอนการเตรียมยาน้ำจากยาเม็ด และช่วยผู้ปกครองดูแลให้ยาลูกหลานที่ป่วยในช่วง Home Isolation ได้อย่างเหมาะสม

ภก.ดร.วันชัย จงเจริญ อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า คณะผู้วิจัย ประกอบด้วย ภก.ดร.วันชัย ผศ.ภญ.ดร.นฤพร สุตัณฑวิบูลย์ ผศ.ภญ.ดร.ดุษฎี ชาญวาณิช รศ.ภญ.ดร.อังคณา ตันติธุวานนท์ และ ภก.ดร.ภาสวีร์ จันทร์สุก จากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ คิดค้นและพัฒนาน้ำกระสายยาเพื่อใช้กับยาเม็ดฟาวิพิราเวียร์ ที่สามารถเตรียมให้เป็นรูปแบบยาน้ำแขวนตะกอนที่รับประทานง่ายสำหรับผู้ป่วยเด็ก และสะดวกต่อการเก็บไว้ใช้ได้จนครบกำหนด 5-10 วัน ตามระยะเวลาการรักษาที่แพทย์แนะนำ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ปกครองดูแลให้ยาลูกหลานได้อย่างเหมาะสม

สุขภาพเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ เมื่อเราเห็นปัญหาในเด็ก เห็นบุคลากรทางการแพทย์ลำบาก เราจึงนำองค์ความรู้มาพัฒนาสิ่งนี้เพื่อแบ่งเบาภาระเพื่อนร่วมวิชาชีพ
ภาพ : www.chula.ac.th

ภาพ : www.chula.ac.th

ภาพ : www.chula.ac.th


ภก. ดร.วันชัย ระบุว่า น้ำกระสายยาที่ใช้ผสมกับยาเม็ดฟาวิพิราเวียร์ เป็นสูตรที่มีรสหวานอ่อน ๆ และสามารถคงปริมาณตัวยาสำคัญได้ตลอดอายุการใช้งานที่แนะนำ เมื่อผสมยาเม็ดกับน้ำกระสายยาแล้วสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 10 วัน ที่อุณหภูมิห้องหรือในตู้เย็น

เราต้องการทำให้บุคลากรทางการแพทย์ทำงานสะดวกขึ้น ผู้ปกครองสามารถดูแลบุตรหลานเองได้ เพื่อให้ผู้ป่วยเด็กได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ไม่บ้วนหรือคายยาทิ้ง
ภาพ : www.chula.ac.th

ภาพ : www.chula.ac.th


ทั้งนี้ หากนึกถึงภาพการผสมยาเม็ดที่ถูกบดละเอียดกับน้ำกระสายยา เมื่อตั้งทิ้งไว้ไม่นาน ผงยาจะตกตะกอนนอนก้นและเขย่ากลับคืนได้ยาก แต่สูตรน้ำกระสายยาฟาวิพิราเวียร์ที่พัฒนาขึ้นนี้จะช่วยพยุงผงยาไม่ให้นอนก้นเร็วเกินไปและสามารถคงสภาพได้นานพอที่จะเตรียมเป็นยาสำเร็จรูปพร้อมใช้ได้

หลังจากประสบความสำเร็จในการคิดค้นสูตรน้ำกระสายสำหรับยาเม็ดฟาวิพิราเวียร์ คณะผู้วิจัยได้ทดลองผลิตน้ำกระสายยาในปริมาณที่มากขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการนำไปใช้ของสถานพยาบาลในห้องปฏิบัติการที่อ้างอิงมาตรฐานห้องสะอาด (clean room) ของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งเป็นระดับที่เล็กกว่าอุตสาหกรรมประมาณ 10 เท่า พบว่า 1 ชั่วโมง สามารถเตรียมน้ำกระสายยาได้ประมาณ 10-20 ลิตร และใน 1 วัน ผลิตได้ประมาณ 50 ลิตร

ภาพ : www.chula.ac.th

ภาพ : www.chula.ac.th

ภาพ : www.chula.ac.th


นอกจากการเตรียมน้ำกระสายยาแล้ว คณะผู้วิจัยยังได้จัดทำคู่มือขั้นตอนการนำน้ำกระสายยาไปใช้เพื่อเตรียมยาสำหรับดูแลผู้ป่วยเด็กด้วย สำหรับสถานพยาบาลหรือหน่วยงานที่สนใจน้ำกระสายยาฟาวิพิราเวียร์ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภญ.ดร.นฤพร สุตัณฑวิบูลย์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ 083-445-9393 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง