วัคซีนกระตุ้นภูมิฯ สู้ "โอมิครอน BA.2" กรมวิทย์ฯ แนะกระตุ้นเข็ม 3

สังคม
11 เม.ย. 65
11:42
1,763
Logo Thai PBS
วัคซีนกระตุ้นภูมิฯ สู้ "โอมิครอน BA.2" กรมวิทย์ฯ แนะกระตุ้นเข็ม 3
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ คาดภาย 1-2 สัปดาห์ โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ครองไทย 100% ส่วนผลการศึกษาในคนที่ฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 พบระดับภูมิคุ้มกันจัดการกับ BA.2 ได้สูงกว่า BA.1 แนะกระตุ้นเข็ม 3 ลดป่วยรุนแรง-เสียชีวิต

วันนี้ (11 เม.ย.2565) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ในไทย เป็นระลอกที่ 5 พบสายพันธุ์โอมิครอนเป็นหลัก โดยมีการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ย่อย BA.1 และ BA.2 แต่ยังไม่พบ BA.3 ในไทย

 

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การสุ่มตรวจสายพันธุ์ พบเป็นโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2 อยู่ที่ 95.9% ส่วน BA.1 อยู่ที่ 4.1% คาดว่าไม่เกิน 1-2 สัปดาห์นี้ การแพร่ระบาดในไทยจะเป็นสายพันธุ์ย่อย BA.2 เกือบ 100% เนื่องจากแพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์อื่น

 

นพ.ศุภกิจ กล่าวถึงระดับภูมิคุ้มกันในคนที่ได้รับวัคซีน 2 เข็ม และ เข็ม 3 กระตุ้นห่างกัน 2 สัปดาห์ ต่อการลบล้างฤทธิ์ไวรัสโอมิครอน BA.1 และ BA.2 พบว่า คนที่ฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ไม่ว่าสูตรใด จะมีภูมิที่จัดการกับเชื้อ BA.2 ได้มากกว่า BA.1 จึงสรุปเบื้องต้นว่า ที่มีข้อมูลว่า BA.2 หลบหลีกภูมิจากวัคซีนได้มากนั้นไม่จริง เพราะถูกลบล้างเชื้อด้วยภูมิคุ้มกันที่มีอยู่ได้มากกว่า

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อฉีดวัคซีนแล้วหลายเดือน ภูมิก็จะตกลงเรื่อย ๆ จึงเรียกร้องให้กระตุ้นด้วยเข็ม 3 พร้อมยกตัวอย่างคนที่ฉีดวัคซีนสูตรซิโนแวค 2 เข็ม นาน 1 เดือน ภูมิคุ้มกันจะอยู่ที่ 11.21 แต่เมื่อได้รับเข็มกระตุ้นหลัง 3 เดือน พบว่ามีภูมิคุ้มกันสูงขึ้นพอสมควร เช่น สูตรซิโนแวค-ซิโนแวค-แอสตราเซเนกา ภูมิคุ้มกันอยู่ที่ 61.28 ส่วนสูตรซิโนแวค-ซิโนแวค-ไฟเซอร์ ภูมิคุ้มกันอยู่ที่ 94.68

 

ขณะที่ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค พบว่า ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน มีอัตราเสียชีวิต 767 ต่อล้านคน, ผู้ที่ฉีดวัคซีน 1 เข็ม อัตราเสียชีวิต 366 ต่อล้านคน, ผู้ที่ฉีดวัคซีน 2 เข็ม อัตราเสียชีวิต 145 ต่อล้านคน, ผู้ที่ฉีดวัคซีน 3 เข็ม อัตราเสียชีวิต 25 ต่อล้านคน และผู้ที่ฉีดวัคซีน 4 เข็ม ยังไม่พบผู้เสียชีวิต จึงขอให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน

ฉีด 2 เข็มไม่พอแน่ ต้องกระตุ้นเข็ม 3 ลดความรุนแรงปอดอักเสบ หรือเสียชีวิต

 

ด้าน นพ.บัลลังก์ อุปพงษ์ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ในสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศ เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 จำนวน 2 เข็ม และการกระตุ้นเข็มที่ 3 ต่อการกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1 และ BA.2 พบว่า กรณีการฉีดวัคซีน 2 เข็ม มีภูมิคุ้มกันต่อโอมิครอนไม่มากนัก ส่วนการกระตุ้นเข็ม 3 ทั้งวัคซีนแบบเดียวกัน และสลับไขว้ จะมีภูมิคุ้มกันต่อโอมิครอนสูงขึ้นชัดเจน และภูมิคุ้มกันต่อ BA.2 สูงกว่า BA.1

BA.1 และ BA.2 เสมือนเป็นพี่น้องกัน แต่มีความสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้แตกต่างกัน

 

ดร.สุภาพร ภูมิอมร ผู้อำนวยการสถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า นอกจากการหลบภูมิคุ้มกันที่แตกต่างระหว่าง BA.1 กับ BA.2 ยังพบว่าในหลอดทดลองการเพิ่มจำนวนของ BA.2 เร็วกว่า BA.1 อาจจะเป็นเหตุหนึ่งที่พบว่า จำนวนอนุภาคของไวรัสจะมีขนาดใหญ่กว่า BA.1 นั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้พบว่า การแพร่กระจายของ BA.2 เร็วกว่า BA.1

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง