วันนี้ (18 เม.ย.2565) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ระบุถึงกรณีที่ฝ่ายค้านขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ว่า สามารถทำได้หลังวันที่ 22 พ.ค.2565
เมื่อยื่นแล้ว นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ก็ต้องตรวจข้อมูลให้ครบถ้วน และแจ้งกลับมายังรัฐบาลว่า รัฐบาลมีความพร้อมเมื่อใด ซึ่งรัฐบาลไม่ใช่ฝ่ายที่ฟันธง เพียงแต่บอกกำหนดความพร้อมของรัฐบาล จากนั้นจะนำไปปรับให้เข้ากันกับปฏิทินของสภา และจะมีการถามกลับมายังรัฐบาลอีกครั้งว่า มีความพร้อมตรงกันหรือไม่ อีกทั้งรัฐบาลสามารถเสนอเป็นห้วงๆ เวลาได้
ส่วนการเตรียมซักฟอกรัฐมนตรีบางราย ที่พบการทุจริตใบเสร็จ โดยใช้ชื่อของภรรยาเป็นผู้ดำเนินการ นายวิษณุระบุว่า ก็ไม่รู้ว่าต้องระวังกันอย่างไร เนื่องจากรัฐมนตรีทั้ง 36 คน ต้องระวังตัวอยู่แล้ว การที่อยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีหรือรัฐบาล จะกระทำความผิดไม่ได้ ไม่ว่าฝ่ายค้านจะเปิดอภิปรายหรือไม่ก็ตาม สักวันหนึ่งก็จะมีองค์กรเข้ามาตรวจสอบ จึงต้องระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา
ทั้งนี้นายวิษณุ ยังระบุว่า หลังการเปิดสมัยประชุมสภา ในวันที่ 22 พ.ค.2565 ใน 120 วัน เป็นช่วงเวลาที่ทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มีเสียงข้างมาก หรือเป็นรัฐบาลที่อาจจะมีปัญหา
ในปัจจุบัน จะต้องระมัดระวังและเตรียมการ ตามปฏิทินที่จะเสนอกฎหมายงบประมาณ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมืองและส.ส ทั้ง 2 ฉบับ และขณะเดียวกันก็ยังมีกฎหมายใหม่ รัฐบาลเตรียมเสนอเข้าสภาฯ ที่เข้าไม่ทันในการประชุมสมัยที่ผ่านมา
เช่น พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่สังคมจับตาอยู่ ขณะเดียวกันก็ยังมีกฎหมายที่ค้างอยู่ในสภา และพิจารณาใกล้แล้วเสร็จ กฎหมายตำรวจ การศึกษา กระบวนการยุติธรรม กฎหมายวิธีการปฏิบัติราชการทางราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ กฎหมายว่าด้วยการปรับมาเป็นโทษทางพินัย
ซึ่งทั้งหมดเป็นกฎหมายสำคัญที่มีประโยชน์ต่อประชาชน ที่ผ่านมาเป็นการเสนอควบ 2 สภา ซึ่งจะทำให้การพิจารณาเสร็จเร็ว วันนี้คณะกรรมาธิการพิจารณาใกล้แล้วเสร็จ และหลังจากประชุมก็จะมีกฎหมายดี ๆ ออกมาใช้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนให้สำเร็จ ไม่ใช่เป็นเพียงการเข็นเข้าสภาเพียงอย่างเดียว
ขณะเดียวกันก็มีเรื่องที่รัฐบาลจะต้องเตรียมการให้รัฐบาลสมัยนี้ และบางเรื่องจะต้องเตรียมการรัฐบาลสมัยหน้า เช่น การเตรียมการจัดงานพระราชสมภพ 90 ปี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ของรัฐบาลที่ต้องจัดเตรียม
นอกจากนี้จะมีการประชุมเอเปคในช่วงเดือนพฤศจิกายน และมีการเตรียมการฉลองครบ 100 ปี วันประสูติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งตรงกับวันที่ 6 พ.ค.2566 ที่จะครบ 100 ปี หากมีพระชนม์อยู่ ซึ่งไม่สำคัญเท่ากับเมื่อครบ 100 ปี องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก จะยกย่องให้สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นบุคคลสำคัญของโลก
รัฐบาลจึงต้องตั้งคณะกรรมการพิจารณาระดับชาติ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลอยู่ไม่ทันแน่นอน เพราะอยู่หลังสมัย 4 ปีของรัฐบาลอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงต้องเป็นการเตรียมงบประมาณการไว้ให้รัฐบาลหน้า ในการจัดกิจกรรมทำสารคดี
ส่วนจะทันหรือไม่ทันในสมัยรัฐบาลนี้ไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นคือต้องเตรียมเอาไว้ให้ เพื่อให้ภารกิจราบรื่น หรือหากมีเหตุจำเป็นรัฐบาลอื่นเข้ามาปุ๊บปั๊บก็จะได้รับช่วงต่อไปได้ ซึ่งเรื่องทั้งหมดนี้รัฐบาลจะต้องมีการเตรียมการหลังวันที่ 22 พ.ค.2565
นายวิษณุ ระบุว่า ไม่ทราบจะมีรัฐบาลอื่นกระทันหันหรือไม่ แต่การเตรียมการเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว พร้อมเชื่อว่า จะไม่มีอุบัติเหตุใด ๆ แต่เป็นเรื่องที่ต้องเตรียมการ เหมือนคำว่า แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ