“สกลธี” แจงนโยบาย “สมาร์ต คลินิก” เน้นดูแลผู้สูงอายุทันท่วงที

การเมือง
18 เม.ย. 65
18:16
92
Logo Thai PBS
“สกลธี” แจงนโยบาย “สมาร์ต คลินิก” เน้นดูแลผู้สูงอายุทันท่วงที
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“สกลธี” ลงพื้นที่ตลาดสดสี่แยกทศกัณฑ์ ย่านบางแค พบปะประชาชน พร้อมหมอจุฬาฯ เสนอ ติดกล้องวงจรปิดดูแลผู้ป่วยติดเตียง ให้ความช่วยเหลือทันท่วงที

วันนี้ (18 เม.ย.2565) นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 3 เดินหน้าหาเสียง ไปพบปะประชาชนที่ตลาดสดสี่แยกทศกัณฑ์ ย่านบางแค จากนั้นร่วมรับฟังข้อเรียกร้องจากประชาชนที่ชุมชนศิริเกษมร่วมใจ เขตบางแค

นายสกลธีกล่าวว่า ตนลงพื้นที่ตลาดเพราะเชื่อว่า เป็นจุดที่พบปะพูดคุยกับประชาชนอย่างใกล้ชิด และรับรู้ปัญหาได้โดยตรง วันนี้ได้พบกับ นายเริง (ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ก.เขตบางแค) โดยบังเอิญ ตนยินดีถ้าหากมีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน และในความเป็นจริงแล้ว ก็สามารถทำงานร่วมกับ ส.ก. จากทุกพรรค เพราะตนสมัครในนามอิสระไม่มีสังกัด ดังนั้นจึงไม่มีปัญหา สามารถทำงานร่วมกับทุกคนได้

จากนั้นนายสกลธีพร้อมกับ นพ.พัชร อ่องจริต หนึ่งในทีมงานด้านสาธารณสุข ได้ร่วมประชุมกับชาวชุมชนศิริเกษมรวมใจ 50 นำเสนอนโยบาย ด้านสาธารณสุข ตามนโยบาย สมาร์ต คลินิก

นายสกลธีกล่าวว่า หากตนได้เป็นผู้ว่า จะเพิ่มการดูแลอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุ ผู้พิการและกลุ่มเปราะบาง ให้สามารถเข้าถึงการบริการทางด้านสุขภาพได้อย่างรวดเร็วสะดวก ไม่ต้องใช้เวลามากโดยเฉพาะการ นำเทคโนโลยี มาใช้ในการตรวจสุขภาพให้กับประชาชน หากไม่สามารถเดินทางออกนอกบ้านได้ รวมถึงการให้ความรู้กับผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้ป่วยสูงอายุให้มีความสามารถ ในการบริหารจัดการดูแลสุขภาพ ญาติพี่น้องอย่างถูกวิธี

 

ด้าน นพ.พัชร กล่าวว่า ในส่วนของนโยบายด้านสาธารณสุข คิดว่าสามารถทำให้เป็นระบบได้ โดยเฉพาะนโยบายสมาร์ตคลินิก เช่น การดูแล ผู้สูงอายุที่อยู่ที่บ้านที่ ลูกหลานออกไปทำงาน

ตามนโยบายของเราคือให้ ลูกหลานลงทะเบียนกับสาธารณสุขชุมชน ชุมชนและใช้เทคโนโลยีเข้าไปในการติดตามตรวจสอบ Monitor เช่น เพิ่มกล้องวงจร ปิด หรือติดเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย

โดยเจ้าหน้าที่สามารถ เปิดกล้องดูที่ศูนย์ ตรวจสอบตามเวลาว่า เกิดเหตุหรือมีอาการเจ็บป่วยเร่งด่วนอื่นได้หรือไม่ หากเกิดอาการเร่งด่วนก็สามารถส่งรถเข้าไปรับหรือดูแลได้ทันท่วงที ทั้งนี้เชื่อว่าหากชุมชนเข้มแข็ง กทม.มีแนวทางการดูแลผู้ป่วยสูงอายุที่ดี ตัวลูกหลานก็มีกำลังใจ ในการทำงานไม่ต้องมีห่วงกังวลซึ่งในการดำเนินการนี้ใช้ ค่าใช้จ่ายไม่มาก และคิดว่าสามารถทำได้อย่างแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง