บทวิเคราะห์ : อำจนได้เรื่อง-บิ๊กป้อมพบทักษิณ

การเมือง
25 เม.ย. 65
14:02
1,382
Logo Thai PBS
บทวิเคราะห์ : อำจนได้เรื่อง-บิ๊กป้อมพบทักษิณ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

เป็นข่าวบนหน้าสื่ออีกครั้ง การพบกันของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อังกฤษ

หลังจาก “บิ๊กป้อม” ยื่นหนังสือลาประชุมครม.วันอังคารที่ 19 เมษายน เพื่อเดินทางไปพักผ่อนที่ต่างประเทศ ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะช่วยยืนยันข่าวนี้ โดยยอมรับว่า “บิ๊กป้อม” ลาประชุมไปต่างประเทศจริง แต่ไปทำงาน ไม่ใช่เพื่อพักผ่อน

หากเป็นจริง ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ที่ใครติดภารกิจย่อมสามารถลาประชุมได้ ยิ่งลาเพื่อพักผ่อน หรือไปพบแพทย์เพื่อรักษาตัวยิ่งเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะคนในวัยสูงอายุ

ประเด็นสำคัญอยู่ที่ นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ และประธานวิปรัฐบาล เป็นคนเปิดประเด็นเรื่องทั้งคู่ไปเจอกัน กับนักข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล แถมยังอ้างคำพูด “บิ๊กป้อม” เป็นตุเป็นตะว่า นายทักษิณได้ฝากความคิดถึงกลับมาให้นายนิโรธด้วย

ร้อนถึงนักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ต้องรีเช็กตรวจสอบเรื่องนี้อีกรอบ เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ มีความสำคัญ โดยการโทรศัพท์สอบถามจากทั้งนายนิโรธ และพล.อ.ประวิตรโดยตรง

จึงได้รับคำตอบที่สอดคล้องกันว่า ไม่ใช่ความจริง แต่เป็นเรื่องที่นายนิโรธอ้างว่า พล.อ.ประวิตร หวังจะอำเล่น แถมพล.อ.ประวิตรยังปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่เคยเจอนายทักษิณมาตั้งแต่ปี 2548 แล้ว

ปี 2548 คือปีที่ “พี่ใหญ่” แห่งบูรพาพยัคฆ์ พ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก หรือผบ.ทบ. หลังจากได้รับตำแหน่งนี้ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2547 รวมเวลา 1 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลารัฐบาลนายทักษิณ นั่นเอง

พล.อ.ประวิตร ที่บางกระแสระบุ ได้แรงหนุนจากกลุ่มการเมืองใหญ่ “วังน้ำเย็น” ของ “ป๋าเหนาะ” นายเสนาะ เทียนทอง ปาดหน้าบิ๊กทหารคนอื่น คว้าเก้าอี้ใหญ่ในกองทัพบก ไปนั่งแทน พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ลูกพี่ลูกน้องนายทักษิณ ที่ถูกโยกไปเกษียณอายุราชการในตำแหน่ง ผบ.สูงสุดแทน จากสาเหตุสำคัญคือ แรงกดดันในกองทัพ

รวมถึงเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งในจำนวนนี้ มีเรื่อง “ปล้นปืน” จากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือค่ายปิเหล็ง อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รวมอยู่ด้วย

เหตุการณ์สำคัญครั้งนั้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของนายทหารจากบูรพาพยัคฆ์ ที่เริ่มเข้าไปกุมอำนาจและสร้างบารมีในกองทัพบก

นับจากนั้นมีนายทหารระดับบิ๊กจากบูรพาพยัคฆ์ ทยอยไปนั่งเก้าอี้ผบ.ทบ.ต่อเนื่องกันหลายคน รวมทั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมเวลากว่า 10 ปี และยังเป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่ขยายบทบาทเข้าไปในแวดวงการเมือง กระทั่งถึงปัจจุบัน

ขณะเดียวกัน เหตุการณ์ครั้งนั้น ได้นำไปสู่ประโยค “วรรคทอง” คำพูดของนายทักษิณ ที่ต่อมามักถูกหยิบยกมาใช้เมื่อพูดถึง หรือมีเรื่องเกี่ยวข้องกับพล.อ.ประวิตร นั่นคือ ...”ท่าทีและน้ำเสียงขึงขังน่ากลัวจัง ไม่นุ่มนวลอ่อนหวานเหมือนตอนมาเกาะโต๊ะขอตำแหน่งผบ.ทบ.เลย”

ส่วนทาง “บิ๊กป้อม” ก็ไม่ยอมน้อยหน้า เพราะหลายครั้งก็ตอบโต้นายทักษิณด้วยวาทะกรรมที่ดุเดือดรุนแรงไม่น้อยไปกว่ากัน อาทิ “กระบวนการยุติธรรมแบบป้อมๆ (กรณีป.ป.ช.ใช้ดุลยพินิจเรื่องแหวนแม่นาฬิกาเพื่อน) ให้ไปถามไอ้ทักษิณเอง” หรือ “ไม่มีเรื่องอะไรจะคุยด้วย ไปติดคุกก่อน แล้วค่อยมาคุยเรื่องปรองดอง”

ต่างฝ่ายไม่มีใครลดราวาศอก ท่ามกลางกระแสข่าวลือ ที่มักออกมาเป็นระยะ ๆ เรื่อง(แอบ) เจรจากัน แต่สุดท้าย ต่างฝ่ายก็ยังปฏิเสธผ่านสื่อ

แต่ที่แน่ ๆในอดีต ทั้งคู่รู้จักมักคุ้นแบบ “คนกันเอง” จริงๆ ไม่ได้โม้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง