ยื่นขอรับรอง "วิถีเลี้ยงควายน้ำทะเลน้อย" เป็นมรดกทางเกษตรโลก

สังคม
9 พ.ค. 65
06:57
428
Logo Thai PBS
ยื่นขอรับรอง "วิถีเลี้ยงควายน้ำทะเลน้อย" เป็นมรดกทางเกษตรโลก
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมยื่นเอกสารขอรับรอง "วิถีการเลี้ยงควายและเกษตรเชิงนิเวศในพื้นที่ทะเลน้อย" เป็น "มรดกทางการเกษตรโลก" หวังสร้างโอกาสชุมชนในด้านการท่องเที่ยว เพิ่มรายได้เกษตรกร

วันนี้ (9 พ.ค.2565) นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ยื่นเอกสารขอรับรอง วิถีการเลี้ยงควายและเกษตรเชิงนิเวศในพื้นที่ ทะเลน้อย เป็นมรดกทางการเกษตรโลก จากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO)

 

ส่วนหลักเกณฑ์ที่จะสามารถขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางการเกษตรโลกได้ จะต้องมีองค์ประกอบครบตามหลักเกณฑ์ 5 ข้อ คือ ความมั่นคงด้านอาหารชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี, ความหลากหลายทางชีวภาพการเกษตร, ระบบความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นมีมาแต่ดั้งเดิม, วัฒนธรรม ระบบคุณค่า และองค์กรทางสังคม, ลักษณะภูมิทัศน์ และภูมิทัศน์ทางทะเล

หากพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางการเกษตรโลก จะทำให้เกษตรกรและชุมชนได้รับประโยชน์ในด้านการท่องเที่ยว เพิ่มโอกาสทางการเกษตร การจ้างงาน รายได้เพิ่มขึ้น และการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ

รู้จัก "ทะเลน้อย"

ทะเลน้อย มีพื้นที่ประมาณ 17,500 ไร่ เป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาปสงขลา มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก จนได้รับการประกาศให้เป็นเขตพื้นที่ชุ่มน้ำโลก และวิถีชีวิตในบริเวณนี้พบว่าเกษตรกรมีรายได้หลักจากการขายควาย การทำประมง ปลูกข้าว และแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกระจูด

 

ด้านระบบนิเวศ เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก น้ำในทะเลน้อยมีปริมาณสูง ควายน้ำจะดำน้ำลงไปกินหญ้าใต้น้ำ และพืชน้ำ เช่น สายบัว ใบบัว สาหร่าย กระจูด ซึ่งมีความสำคัญต่อระบบนิเวศในการกำจัดวัชพืช และมูลของควายยังเป็นอาหารให้กับพืชและแพลงก์ตอน ซึ่งเป็นอาหารปลา

ในส่วนของด้านวัฒนธรรม ควายเป็นศูนย์รวมของความเชื่อ มีพิธีกรรมและประเพณีที่เกี่ยวข้องกับควาย และทางเดินของควาย นอกจากจะสร้างภูมิทัศน์ที่สวยงาม ยังช่วยป้องกันการเกิดไฟป่า ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของ FAO ในการเป็นมรดกทางการเกษตร

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง