ทางออก! "คาร์ซีต" หนุนลดภาษี-รณรงค์ก่อนบังคับใช้

สังคม
10 พ.ค. 65
18:44
1,328
Logo Thai PBS
ทางออก! "คาร์ซีต" หนุนลดภาษี-รณรงค์ก่อนบังคับใช้
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สำรวจทางออก! "คาร์ซีต" ก่อนบังคับใช้จริง 5 ก.ย.นี้ หนุนลดภาษีนำเข้าลดภาระค่าใช้จ่าย รณรงค์ก่อนบังคับใช้จริง ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการรถตู้รับส่งนักเรียน กังวลถ้าต้องติดตั้ง อาจแบกรับต้นทุนเพิ่มไม่ไหว

หลังจากมีประกาศราชกิจจานุเบกษา เรื่องกฎหมายเตรียมบังคับใช้ให้เด็กอายุ 6 ปี และผู้โดยสารที่สูงไม่เกิน 135 เซนติเมตรจะต้องนั่งคาร์ซีต หรือเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก จนทำให้ประชาชนบางกลุ่มเริ่มกังวลใจ โดยเฉพาะเจ้าของรถรับส่งนักเรียน อาจจะต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้นหรือไม่

วันนี้ (10 พ.ค.2565) ไทยพีบีเอส สำรวจความเห็นจากคนหลายกลุ่ม ยอมรับตรงกันว่าถ้าต้องติดตั้งคาร์ซีต อาจมีผลต่อการเพิ่มค่าใช้จ่ายมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรถตู้ นายดำรงค์ แก้วน้ำ คนขับรถตู้รับส่งนักเรียน อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง กล่าวว่า สนับสนุนคาร์ซีต ถ้าจะบังคับใช้ แต่หากจะต้องติดตั้งคาร์ซีต เพื่อรับส่งนักเรียน ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจำนวนมาก

นักเรียนที่รับส่งส่วนใหญ่ เป็นเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 6 ปี หากเป็นเช่นนี้อาจต้องยกเลิกรับส่งเด็กเล็กไปก่อน และอยากให้รัฐมีมาตรการช่วยเหลือ

ผู้ปกครองร้องปรับคาร์ซีตเป็นสินค้าจำเป็น

สอบถามผู้ปกครองในหลายจังหวัด ยังมีความเห็นตรงกันว่า คาร์ซีต คืออุปกรณ์ช่วยให้ลูกรอดชีวิตได้เวลาเกิดอุบัติเหตุ แต่ในยุคภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ อาจไม่ใช่ทุกครอบครัวที่จะมีกำลังซื้อได้ ขณะที่รถยนต์บางรุ่นก็ไม่ได้เอื้อต่อการติดตั้งคาร์ซีต

นางภัทรนิดา เมตจิตกุล ผู้ปกครอง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เสนอว่า รัฐควรใช้วิธีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้เห็นความสำคัญของการติดตั้งคาร์ซีตก่อนจะบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งควบคุมมาตรฐานและราคาคาร์ซีต ตามท้องตลาดในราคาที่หลายครอบครัวเข้าถึงได้ โดยปรับให้เป็นสินค้าจำเป็น ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย

อยากให้รัฐลดภาษีการนำเข้า เพราะราคาค่อนข้างแพง แต่ตอนนี้พบมีหลายยี่ห้อที่เริ่มลดราคาลงมา แต่อยากให้มีการรณรงค์การใช้งานก่อนมากกว่า บ้านไหนเป็นอย่างไร สามารถใช้งานได้กี่ปี เพราะรถกระบะมีข้อจำกัดติดตั้งไม่ได้

ขณะที่นายธีระวัฒน์ อิทธิพันธุ์ ผู้ปกครองใน จ.ระยอง กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่า คนทั่วไปกับงบประมาณของคาร์ซีต จะไปกันได้ขนาดไหน เพราะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ถ้ามีได้ในรถยนต์ที่มีเด็กเล็กก็เป็นเรื่องดี

อ่านข่าวเพิ่ม ประกาศ เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่งคาร์ซีท เริ่ม ก.ย.นี้

เสนอลดภาษีนำเข้าอุดหนุนค่าคาร์ซีต

รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่ขับเคลื่อนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาต่อเนื่อง กล่าวว่า รัฐบาลไม่ควรเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายออกไป

แต่ภาครัฐควรช่วยเหลือให้ประชาชนเข้าถึงคาร์ซีตได้ เช่น สร้างความเข้าใจให้กับประชาชน การจัดให้มีตั๋วคืนเงิน จ่ายคนละครึ่งกับรัฐ ลดภาษีการนำเข้า ส่งเสริมผู้ผลิตในประเทศ และจุดบริการต่างๆ ของภาครัฐ ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน ควรจัดให้มีบริการยืมคาร์ซีต โดยเฉพาะรถโรงเรียน ต้องมีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ

รถโรงเรียน จัดเป็นบริการ เช่นให้ยืมใช้ ลงขันช่วยกัน ชุมชนช่วยกัน ตราบใดถ้าไม่ทิ้งความจำเป็นของคาร์ซีต เป็นบริการสาธารณะในต่างประเทศท้องถิ่นออกเงินหมด ส่วนรถตู้ อาจมีข้อจำกัดเรื่องที่นั่ง แต่ทั้งหมดต้องมีคนช่วย

ตำรวจ ยันเร่งประชาสัมพันธ์ก่อน

ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ในระยะ 120 วัน หลังประ กาศราชกิจจานุเบกษา ตำรวจจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ข่าวสารก่อน ส่วนวันที่คาดว่าจะบังคับใช้ได้ตามกฎหมายน่าจะเป็นวันที่ 5 ก.ย.นี้

นอกจากนี้ ตำรวจยังแนะทางเลือก ในการจัดที่นั่งเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็กมี 3 วิธี คือจัดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือคาร์ซีต จัดที่นั่งพิเศษ มีวิธีป้องกันอันตรายสำหรับเด็ก โดยไม่ได้บังคับว่าจะต้องใช้คาร์ซีตเพียงอย่างเดียว แต่ระบุว่าจัดหาที่นั่งสำหรับเด็ก เช่น การจัดให้เด็กนั่ง และคาดเข็มขัดนิรภัยให้ หรืออาจใช้วิธีการป้องกันอื่นๆ เช่น การนำเด็กมานั่งตักและคาดเข็มขัดนิรภัยให้ทั้งตัวเด็กและผู้ปกครอง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศักดิ์สยาม” รับพิจารณาการใช้ “คาร์ซีต” ไม่ให้กระทบค่าใช้จ่าย

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง