วันนี้ (16 พ.ค.2565) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี เคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่ผ่านมาเป็นที่ยอมรับในแวดวงธุรกิจและยังดำรงตำแหน่งสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค หรือ APEC Business Advisory Council (ABAC) และที่ผ่านมาพยายามให้นักธุรกิจไทยแข่งขันกับตลาดโลกได้
ส่วนตัวรู้สึกภูมิใจที่มีนายสุพันธุ์เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรค เพราะจากความสามารถ อีกทั้งเคยเป็นคนตัวเล็กมาก่อน เริ่มต้นจากการทำธุรกิจครอบครัว ก็เหมือนเป็น SMEs เมื่อ 30 ปีก่อน ถือว่าเป็นผู้ที่มีหัวคิดทันสมัย จากบริษัทเครื่องเขียนมาจำหน่ายคอมพิวเตอร์ มูลค่าหลายหมื่นล้านบาท และได้สร้างบุคลากรด้านไอทีจำนวนมาก
พรรคต้องการหัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่เข้าใจคนทำมาหากิน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ SMEs ต้องทำให้คนมีความรู้ เข้าใจตลาด ต้องการให้ทุกคนมีรายได้ดี ประเทศจะร่ำรวยได้ แต่คนตัวเล็กต้องลืมตาอ้าปากได้
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวยืนยันว่า ตั้งใจที่จะสร้างพรรคให้เป็นทางเลือกทางรอดประเทศ ก้าวข้ามความขัดแย้ง แก้ปัญหาปากท้อง ขจัดปัญหาคอรัปชัน และนี่เป็นภารกิจสุดท้ายทางการเมือง หากประชาชนเห็นด้วยกับแนวทางพรรค ขอให้พูดคุยแสวงหาเดินหน้าประเทศ เพื่อไม่ให้มีการรัฐประหารอีก และจะรับฟังทุกคนเพื่อแก้ปัญหา
ส่วนวาทกรรมเรื่องการ "ดึงคนเสื้อแดงกลับมา" ยอมรับว่า เรื่องความเห็นต่างทางการเมือง ไม่ได้เป็นเรื่องผิด ทุกคนเห็นต่างได้ นักการเมืองทำผิดพลาดได้ แต่ไม่ใช่การสร้างวาทกรรมให้คนมาตีกัน ประเทศสงบไม่ได้ และจะกลับมาสู่การรัฐประหารอีก ประชาชนต้องเลือกว่า จะเลือกแบบเดิมติดหล่ม หรือจะเดินหน้า หรือให้ทหารมายึดประเทศ
เราเป็นเรา หากใครเห็นด้วยว่าแนวทางนี้ ทำให้เดินหน้าได้ สามารถสร้างความหวังได้ก็เลือกเรา คงจะไม่ไปโจมตีใคร อยากจบชีวิตทางการเมืองด้วยการสร้างพรรคที่ดีเป็นทางเลือก แนวคิดอาจจะคนละแบบแต่จะไม่สร้างวาทกรรมมาสร้างความขัดแย้งเพิ่มเติม
ส่วนการประกาศตัวเลขที่นั่งของบางพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่า ไม่หวัง ไม่ได้คิดการเมืองแบบเก่า ตนเองผ่านจุดนั้นมาแล้ว ไม่ได้ต้องการมาประกาศจำนวนเก้าอี้เพื่อต่อรองผลประโยชน์พร้อมระบุว่า หลังจากนี้ จะมีการเปิดตัวยืนยันทีมมีนักธุรกิจแต่ละทีมและด้านสังคม
ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ตนเองเป็นนักธุรกิจ เปลี่ยนจากธุรกิจกระดาษ เครื่องเขียน มาทำเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ก ซึ่งเหมือนสตาร์ตอัพเมื่อ 30 ปีก่อน มียอดขายบริษัท 30,000 กว่าล้านแตะไฮ เรคคอร์ด บริษัทไม่มีปัญหาการขาดทุน
ยอมรับว่า การตัดสินใจมาตำแหน่งนี้ เพราะเศรษฐกิจประเทศไทยเปราะบาง เงินเฟ้อสูงมาก เดือน มี.ค.ที่ผ่านมาอยู่ที่ 5.7% หนี้ครัวเรือนสูงในประวัติศาสตร์ 90% ของ GDP และอุดมการณ์ของพรรคไทยสร้างไทยจึงเลือกพรรคนี้
ขณะที่การบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ ที่ผ่านมานโยบาย ไม่ได้ดูคนตัวเล็กแต่ดูแลคนตัวใหญ่ ซึ่งควรสนับสนุนให้คนตัวใหญ่ไปโตข้างนอกประเทศมากกว่า
พร้อมระบุว่า นักธุรกิจที่มาตัดสินใจทำการเมืองแทบจะไม่มี แต่อยากให้เศรษฐกิจดี ยืนยันว่า เอกชนรู้ปัญหาดีที่สุด เพราะอยู่ตั้งแต่บริษัทเล็ก ๆ ถ้ามีโอกาสเป็นรัฐบาลมีโอกาสจะทำได้แน่นอน ในการแก้ปัญหาความปัญหาเหลื่อมล้ำความจน ความช่วยเหลือรัฐบาลไม่เพียงพอ การทำธุรกิจให้นักธุรกิจโตยาก ที่สำคัญจะเปิดโอกาสให้นักธุรกิจ
ส่วนการร่วมรัฐบาลก่อนหน้านี้ นายสุพันธุ์ยอมรับว่า รัฐบาลและเอกชนไม่ได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน รัฐบาลแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ถูกจุด โดยเฉพาะเรื่องโควิด วัคซีนเป็นสิ่งที่รัฐบาลตามไม่ทัน ต้องมีความร่วมมือกับเอกชน และที่ผ่านมาบางเรื่องได้รับการผลักดันบางเรื่องไม่ได้รับการผลักดันจึงคิดว่าถ้ามีโอกาสเป็นรัฐบาล จะมีโอกาสรู้แก้ปัญหาได้ดีกว่า และต้องใช้งบประมาณให้ดีกว่า