วันนี้ (18 พ.ค.2565) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีฝนตกหนักใน กทม. แต่ระบบระบายน้ำกลับเป็นอัมพาต การบริหารของ ผู้ว่า กทม. ที่ผ่านมาปล่อยให้ระบบการระบายน้ำของกรุงเทพฯ ขาดการดูแลแบบนี้ได้อย่างไร ขณะที่หัวใจของการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพฯ อยู่ที่การจัดสรรงบประมาณ แต่หากดูงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาน้ำท่วมกลับถูกตัดเหี้ยน
งบประมาณซ่อม/สร้างสถานี ประตู บ่อสูบน้ำ ถูกตัดไป 5,170 ล้าน เหลือ 136 ล้าน, งบข้อมูลพยากรณ์อากาศและน้ำท่วม ตัดไป 295 ล้าน เหลือ 68 ล้าน, งบสร้างแก้มลิง ตัดไป 1,463 ล้าน เหลือ 96 ล้าน และงบเครื่องสูบน้ำและรถเคลื่อนที่เร็ว ตัดไป 1,005 ล้าน เหลือ 0 บาท (ย้ำว่าศูนย์บาท) ยังไม่รวมงบโครงการพื้นฐานในการลอกท่อลอกคลองที่โดนตัดไป 7,144 ล้าน เหลือ 521 ล้าน ในขณะที่งบสร้างอุโมงค์ยักษ์ 2,000 ล้านบาท ที่ไม่ทีการเบิกจ่ายเลยกลับไม่โดนตัดซักบาท
นอกจากนี้ นายวิโรจน์ กล่าวว่า นโยบาย "ลอกท่อทั่วเมือง ลอกคลองทั่วกรุง" จบปัญหาน้ำรอระบาย ปัญหาน้ำท่วมแก้ได้ไม่ต้องใช้เมกะโปรเจค เพียงแค่ดูแลระบบระบายน้ำทั่วกรุงเทพฯให้ใช้งานได้จริง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา กรุงเทพฯ จัดสรรงบประมาณในสัดส่วนที่ไม่เอื้อต่อการจัดการปัญหาน้ำท่วมเท่าใดนัก
งบขุดลอกคูคลอง บำรุงรักษาสถานีสูบน้ำ ที่จะสามารถช่วยบรรเทาน้ำท่วมได้ วันนี้กลับได้รับงบน้อยจนไม่เพียงพอ สำหรับการดำเนินงาน ส่วนอุโมงค์ยักษ์ที่ยังไม่สามารถใช้การได้ในเร็ววันนี้กลับได้รับจัดสรรงบจำนวนมาก
ส่วนการขุดลอกคูคลองที่หากทำได้ดีก็จะสามารถช่วยระบายน้ำได้มากก็มีปัญหาการทุจริต เนื่องจากกรุงเทพฯ ประเคนงานให้กับเอกชนเพียงไม่กี่ราย เมื่อมีผู้รับเหมาน้อยรายสุดท้ายก็ไม่สามารถขุดลอกคูคลองได้ทัน
มากไปกว่านั้นเอกชนที่มาประมูลงานจำนวนมากก็ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะดำเนินงานให้แล้วเสร็จด้วยตนเอง แต่เข้ามาประมูลงานเพื่อฟันหัวคิว แล้วไปจ้างช่วงให้บริษัทอื่นมาทำงานต่ออีกที
กรุงเทพฯ จึงจำเป็นต้องเริ่มการประมูลหาผู้รับเหมาอย่างเป็นธรรม หยุดประเคนงานให้กับผู้รับเหมาเพียงไม่กี่ราย รวมทั้งออกกฎระเบียบห้ามจ้างช่วง หากเอกชนรายใดไม่มีศักยภาพที่จะทำให้งานสำเร็จลุล่วง ก็ห้ามประมูลงานเพื่อไปจ้างช่วงฟันหัวคิว
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Rocket Media Lab บอกว่าการลอกท่อช่วงเดือน ธ.ค. 2563 - พ.ค.2564 ทำได้เพียง ร้อยละ 7.51 จากความยาวท่อทั้งหมดในกรุงเทพฯ แล้วจะไม่ให้น้ำท่วมขังได้อย่างไร
ผู้ว่าฯ ต้องจัดสรรงบใหม่และเร่งรัดการลอกท่อลอกคลองทั่วกรุงเทพฯ ก่อนฤดูฝนให้ได้
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ทั้งหมดนี้หาก ผู้ว่าฯ กทม. ชื่อวิโรจน์ สิ่งที่เราจะทำ คือ เปลี่ยนงบอุโมงค์ยักษ์ 2,000 ล้านบาท เป็นขยายท่อระบายน้ำ ขุดลอกท่อ และคูคลอง เพื่อให้น้ำรอการระบาย ระบายได้เร็วขึ้น เมื่อฝนตกน้ำไม่ท่วม แยกระบบท่อน้ำฝน-ท่อน้ำเสีย เพื่อให้สามารถบำบัดน้ำเสียมีประสิทธิภาพ
รวมทั้งตั้งศูนย์รวมการจัดการน้ำไว้ที่เดียว (Single Command) เพื่อให้ข้อมูลทันสถานการณ์ การตัดสินใจทำได้รวดเร็ว มีหน่วยเคลื่อนที่เร็ว พร้อมลอกท่อเมื่อฝนตกระดับวิกฤต ปรับปรุงสถานีสูบน้ำ โดยเพิ่มระบบสำรองไฟสถานีสูบน้ำที่ต้องใช้ automatic transfer เปลี่ยนเฟสไฟ และใช้ระบบ iot ควบคุมเครื่องสูบน้ำอัตโนมัติ ไม่ต้องรอไขกุญแจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"อัศวิน" ขอแก้น้ำท่วม กทม. เหลืออีก 9 จุดต้องสานต่อ
17 ผู้สมัคร ส.ก. ประกาศตัวหนุน "สกลธี"