วันนี้ (24 พ.ค. 2565) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การปราบปรามการค้ามนุษย์ ว่า ช่วงวันที่ 15-18 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะผู้แทนไทย นำโดยนายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือและนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ของไทย กับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ
ก่อนจะมีการพิจารณาจัดอันดับรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์จากทางการสหรัฐฯ หรือ Tier ช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้ หลังจากไทยถูกจัดอันดับประเทศที่ต้องจับตามอง หรือ Tier 2 Watch List เป็นเวลา 2 ปี ติดต่อกันหากไม่ได้รับการปรับแก้ก็จะถูกปรับเป็น Tier 3 อัตโนมัติ
8 เดือน จับเกือบ 400 คดี
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ฝ่ายไทยได้สรุปผลงานภาพรวมการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์และการช่วยเหลือผู้เสียหายจากขบวนการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะแนวทางการให้ความช่วยเหลือคนไทยจากประเทศกัมพูชา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ทั้งนี้เดือน ต.ต. 2564 - พ.ค.2565 มีการจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ไปแล้ว 193 คดี เช่นเดียวกับคดีล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก มีการจับกุมทั้งหมด 200 คดี และในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ไม่มีคดีที่ศาลสั่งไม่ฟ้อง นอกจากนี้ ยังมีการยึดทรัพย์กว่า 142 ล้านบาท มีวงเงินหมุนเวียนกว่า 1,600 ล้านบาท
ทางการสหรัฐฯ ยังขอให้ไทยส่งเอกสารชี้แจงประเด็นเพิ่มเติม 6 ข้อ ซึ่งเกี่ยวข้องกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 3 ข้อ คือ เรื่องสถิติการช่วยเหลือผู้เสียหาย รายละเอียดเพิ่มเติมในคดีที่ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกกว่า 300 ปี ขณะที่ฝ่ายไทยได้เสนอให้ฝ่ายสหรัฐฯ พิจารณาเรื่องการค้ามนุษย์เป็นระดับภูมิภาคไม่ใช่รายประเทศและจับคู่ประเทศ เช่น ไทยกับเมียนมา
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ส่วนคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนญายังมีการขยายผลอย่างต่อเนื่อง แต่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกันอย่างกรณี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ที่ลี้ภัยไปต่างประเทศ ด้วยเหตุผลไม่ได้รับความธรรมหลังทำคดีนี้
กรณีนี้รัฐบาลและรัฐสภาของสหรัฐฯ ไม่ได้สอบถามถึงเรื่องนี้ แต่ยืนยันสำนวนคดีค้ามนุษย์ที่ พล.ต.ต.ปวีณ เกี่ยวข้องมีความสมบูรณ์และศาลพิพากษาแล้ว ประกอบกับพนักงานสอบสวนคดีนี้ก็เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานไม่มีใครหนี ลี้ภัย เช่น พล.ต.ต.ปวีณ คดีนี้จึงถือว่าไม่มีปัญหา
ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายสหรัฐฯ แสดงความพอใจด้านการปราบปรามและดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ของไทย โดยให้ความสนใจกับการช่วยเหลือผู้เสียหายขบวนการค้ามนุษย์ที่ถูกหลอกไปทำงานในประเทศกัมพูชา ที่มีผู้เสียหายกว่า 200 คน
ส่วนการช่วยเหลือในอนาคต พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เตรียมเดินทางไปประเทศกัมพูชา เพื่อประสานจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ามนุษย์คนไทยอีก 31 คน ที่ยังอยู่ในประเทศกัมพูชา เพื่อนำตัวส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยตามกฎหมาย
ด้านทางการสหรัฐฯ เสนอแนะเพิ่มเติมให้เน้นการบูรณาการของหน่วยงานต่างๆ และการช่วยเหลือผู้เสียหายในขบวนการค้ามนุษย์ให้เป็นระบบ โดยเฉพาะเด็กให้กลับสู่พ่อแม่ผู้ปกครองโดยเร็วและจ่ายเงินเยียวยาเหยื่อให้เร็วที่สุด รวมทั้งเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายกับแรงงานภาคบังคับ เน้นการตรวจแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมและการปราบปรามการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ
เตรียมออกหมายจับเพิ่ม คดีค้าประเวณีใน จ.สุราษฎร์ฯ
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้า คดีค้าประเวณีใน จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอีกหลายคน ส่วนวันนี้พนักงานสอบสวนจะส่งคดีของรองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชนฯ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่โทรสั่งการให้เกลี้ยกล่อมเด็กผู้เสียหายให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาซื้อบริการประเวณีเด็ก ให้ กับ ปปช.ภาค 8 เพื่อส่งเรื่องให้ ปปช. พิจารณาว่า จะดำเนินการอย่างไร หากส่งเรื่องกลับมาให้ตำรวจพิจารณาก็จะมีการแจ้งข้อหา ขัดขวางการสืบสวนสอบสวนคดีค้ามนุษย์