วันนี้ (5 มิ.ย.2565) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาบ่อพักท่อระบายน้ำกีดขวางการจราจรบริเวณหน้าแฟลตเคหะบางบัว ซอยพหลโยธิน 49/1 หน้าแฟลตเคหะบางบัว เขตหลักสี่ ทำให้ผิวจราจรเสียไปหนึ่งเลน ซึ่งเป็นปัญหามานานกว่า 1 ปี โดยได้รับทราบปัญหาเมื่อ 10 วันก่อน
เบื้องต้น สำนักงานเขตหลักสี่ได้ประสานผู้รับจ้างนำท่อขึ้นมาวางบนทางเท้าและจะทยอยนำออกจากพื้นที่ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาเนื่องจากต้องนำรถมาขน เบื้องต้นพบว่าการจราจรดีขึ้น พร้อมกันนี้จะออกแบบการก่อสร้างใหม่ โดยรูปแบบเดิมเป็นท่อระบายน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร 2 เส้น วางคู่ขนานกันแต่ติดปัญหามีสายสาธารณูปโภคใต้ดินทำให้มีปัญหาในการวางท่อระบายน้ำ
จากการหารือกับสำนักการระบายน้ำจะออกแบบใหม่อาจจะใช้เป็นท่อเดียวที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และปลายท่อจะติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งสูบออกเพื่อเป็นการระบายน้ำ นอกจากนี้สำนักงานเขตได้ทำการจัดเก็บขยะบริเวณภายในคลองใกล้เคียงเรียบร้อยแล้ว
นี่คือสิ่งที่ชื่นใจที่เห็นผอ.เขต แก้ปัญหาให้ประชาชน และนี่เป็นการส่งสัญญาณให้กับทุกเขตว่าปัญหาใดที่ค้างอยู่ให้ช่วยดูแล โดยเชื่อว่าเรามีกำลังมีศักยภาพเพียงพอที่จะแก้ปัญหาที่ค้างคาให้กับประชาชนได้และจะเดินหน้าต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ได้ร่วมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ พร้อมยืนยันว่า ขณะนี้ให้ขนย้ายท่อระบายน้ำทั้งหมดออกไปก่อน เพราะอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ทั้งหมดจากปัญหาที่พบท่อสายสื่อสารและท่อประปา รวมถึงต้องเปลี่ยนขนาดการวางท่อใหม่ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะ ขณะเดียวกันปลายทางการวางท่อ ตรงคลองบางบัว ก็มีอุปสรรคท่อประปาอยู่ด้วย จึงต้องไปเจรจาเพื่อหาทางเอาท่อไปวางเช่นกัน
ทั้งนี้ ผู้รับเหมาชี้แจงว่า เกิดปัญหา พบว่า บริเวณใต้ดินจุดที่จะต้องวางท่อ มีท่อประปาและท่อสื่อสารวางไว้อยู่ ทำให้เดินหน้าโครงการต่อไม่ได้ แต่ในวันนี้ เบื้องต้น ได้เข้ามายกย้ายท่อระบายน้ำขึ้นจากถนนมาอยู่บนทางเท้า เพื่อให้รถสามารถสัญจรไปได้ก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณดังกล่าวเป็นปัญหามานานกว่า 1 ปี ทำให้ประชาชนร้องเรียนต่อทีมข่าวไทยพีบีเอส ล่าสุด ในวันนี้การขนย้ายบ่อพักท่อออกจากชุมชนยังทำไม่แล้วเสร็จ เพราะจำนวนบ่อพักท่อมีมากกว่า 50 บ่อ แต่ผู้รับเหมามีรถบรรทุกสำหรับขนย้ายเพียง 1 คันเท่านั้น ขนส่งได้ครั้งละ 3 บ่อ จึงทำได้เพียงเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนบ่อทั้งหมด
